ประโยชน์ของการฟังและการเข้าใจถูก
ผู้ถาม การปฏิบัติก็คือการปฏิบัติจากสิ่งที่ได้ฟังมา
สุ. ปฏิบัตินี่คือมรรคปฏิบัติ ไม่ใช่เรา สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาอาชีวะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ๕ องค์
ผู้ถาม หมายถึงว่ารวมอยู่ในคำสอนทั้งหมด จะเป็นทาน เป็นศีล เป็นบุญกิริยา เป็นกุศล เป็นกรรมบถ จะอยู่ในนั้นทั้งหมดอย่างนั้นหรือเปล่า
สุ. แสดงให้ทราบว่ากุศลมีหลายอย่าง กุศลที่เป็นทานไม่ใช่มรรค เป็นแต่เพียงการสามารถที่จะสละวัตถุเพื่อประโยชน์สุขแก่บุคคลอื่น ขณะนั้นไม่ติดข้องจึงสามารถจะสละได้ มีความเมตตา มีความกรุณาในบุคคลนั้น ทำให้มีกุศลระดับนั้น กุศลขั้นศีลก็คือว่าไม่เบียดเบียนคนอื่นด้วยกาย วาจา แต่ว่าไม่ใช่หนทางที่จะทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมเพียงด้วยการไม่เบียดเบียนบุคคลอื่นด้วยกาย ด้วยวาจา เวลาที่เป็นทาน เป็นศีล ขณะนั้นไม่ใช่การรู้ลักษณะของสภาพธรรม แต่ว่าขณะใดที่มีการศึกษา มีการเข้าใจ ขณะนั้นเป็นภาวนาที่จะอบรมให้ถึงการที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้
ผู้ถาม แล้วในกรณีที่สติสามารถที่จะระลึกรู้สิ่งที่กำลังปรากฏนั้นก็ต้องมาจากขั้นแรกก่อน
สุ. ต้องฟัง ต้องมีการฟัง
ผู้ถาม ถ้าอย่างนั้นก็คงจะไประลึกอะไรก็ไม่ได้
สุ. เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงบำเพ็ญบารมีที่จะไม่ต้องฟังเลยในชาติที่ได้ตรัสรู้ แต่ในชาติก่อนๆ ก็ต้องสะสมการฟัง
ผู้ถาม ในการฟังก็หมายถึงอยู่ใน ๓ ปิฎกใช่ไหม
สุ. ค่ะ
ผู้ถาม ถ้าอย่างนั้นการปฏิบัติก็คือที่ๆ อาจารย์อธิบายการปฏิบัติก็อยู่ในองค์มรรค ๘ ใช่ไหม
สุ. ก็หมายความว่าไม่มีเรา มีแต่จิตกับเจตสิก จิต เจตสิกในขณะที่ให้ทานไม่ใช่มรรค ไม่ใช่หนทางที่จะให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม กุศลจิตในขณะที่วิรัติทุจริตก็ไม่ใช่หนทางที่จะทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม เพียงแค่ศีล เพียงแค่ทานแค่ศีลไม่ใช่หนทาง แต่ว่าเมื่อมีความเข้าใจถูกจากการฟัง ประโยชน์ของการฟัง และเข้าใจถูกก็คือว่านำไปสู่มรรคที่จะเกิดขึ้นปฏิบัติกิจของมรรค เพื่อที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม
ผู้ถาม แล้วจำเป็นไหมที่จะต้องมาจากลำดับแรกก่อน
สุ. ถ้าไม่เข้าใจว่าขณะนี้เป็นธรรม สติสัมปชัญญะจะเกิด และรู้ตรงลักษณะนั้นหรือเปล่า ในเมื่อไม่เข้าใจว่านี่เป็นธรรม จะรู้แจ้งเมื่อได้อบรมความรู้ของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเพิ่มขึ้นเท่านั้นหนทางเดียว เป็นหนทางเดียวโดยสติสัมปชัญญะเกิดรู้ตรงลักษณะแล้วก็ค่อยๆ อบรมความเห็นถูก ความเข้าใจถูกจนกระทั่งรู้แจ้งอริยสัจจธรรม
ที่มา ...