เราทั้งหมด ก็คือจิตแต่ละประเภทซึ่งเกิดดับสืบต่อกัน
ผู้ถาม รู้สึกโลภะนี่จะเกิดก่อน เหมือนกับอิจฉา เหมือนกับไม่อยากให้เขาได้ดี แล้วต่อไปก็มานเกิด
สุ. เห็นกับได้ยินนี่เกิดพร้อมกันไหม
ผู้ถาม ไม่พร้อม
สุ. ก็เช่นเดียวกัน
ผู้ถาม แต่ว่าลักษณะของสภาพธรรมเป็นกลุ่มก้อน อย่างเช่นจิตเกิด ๑ดวงก็มีเจตสิกเกิดด้วย ร่วมด้วยมากมาย
สุ. โดยมากแล้ว พอฟังก็ไปคิดเยอะเลยโน่นนี่ๆ นั่นก็ตามแต่ แต่ว่าถ้าฟังแล้วเข้าใจสิ่งที่กำลังฟัจริงๆ แล้วฟังอีกก็เข้าใจสิ่งที่กำลังฟัง ไม่ใช่ฟังแล้วไปเอาเรื่องอื่นเข้ามาหมดเลย แล้วก็มานั่งคิด ไม่รู้ว่าขณะที่ฟังจริงๆ จะต้องรู้ว่าจิตเกิดขึ้นทีละหนึ่งขณะ และจิตจะเกิดเองโดยไม่มีเจตสิกเกิดร่วมด้ยไม่ได้ และเจตสิกที่จะเกิดก็เกิดอย่างเช่นอวิชชาก็เกิดกับอหิริกะ อโนตตัปปะ จิตใดที่มีเจตสิกที่เป็นอกุศลเกิดร่วมด้วยจิตนั้นก็เป็นอกุศล ไม่เอาเรื่องราวหรือว่าตัวเราเข้าไปใส่เลย เพราะกำลังเรียนให้รู้ว่าสิ่งที่เคยเป็นเราทั้งหมดเป็นเรื่องราวต่างๆ ก็คือจิตแต่ละประเภทซึ่งเกิดดับสืบต่อกันอย่างเร็วมาก ถ้าเรามีความเข้าใจในเรื่องของจิต ค่อยๆ เข้าใจเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ไม่ไปคิดเรื่องรวมโดยความเป็นเรื่องโดยความเป็นราว แต่ค่อยๆ เข้าใจว่าลักษณะนั้นเป็นจิตประเภทไหน
ที่มา ...