สิ่งที่ปรากฏทางตา
สุ. เพราะฉะนั้นไม่ใช่หมายความว่าจะไม่มีชื่อ แล้วก็จะรู้ธรรมได้โดยไม่ต้องอาศัยชื่อเลย แต่ตัวธรรมจะเรียกชื่ออะไร สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาขณะนี้จะเรียกชื่ออะไร
ผู้ถาม ถ้าเรียกชื่อเมื่อไหร่ ก็ไม่ใช่ธรรม
สุ. มิได้ ที่จะให้เข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ปรากฏทางตา ไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏทางหู ต้องอาศัยชื่อ แม้ว่าเป็นธรรมที่มีลักษณะเฉพาะของธรรมนั้นๆ แต่ถ้าไม่อาศัยชื่อจะรู้ได้ยังไงว่าหมายความถึงสิ่งที่ปรากฏทางตาหรือสิ่งที่ปรากฏทางหู เพราะฉะนั้นจึงต้องอาศัยชื่อ พระผู้มีพระภาคไม่ใช่พระปัจเจกพุทธเจ้าๆ สามารถที่จะรู้ความจริงของสภาพธรรม ดับกิเลสเป็นพระอรหันต์ที่ไม่ใช่สาวก แต่ว่าไม่ใช่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีระดับของปัญญาที่จะทรงแสดงสภาพธรรมที่กำลังปรากฏโดยนัยประการต่างๆ ที่จะทำให้ผู้ที่ฟังไตร่ตรองจนกระทั่งเพิ่มความเข้าใจขึ้นได้ เช่นสิ่งที่ปรากฏทางตาในขณะนี้ จะใช้คำอะไร ถ้าไม่เรียกชื่อเข้าใจไม่ได้เลย อย่างใช้คำว่า “อายตนะ” ด้วย อย่างใช้คำว่า “ธาตุ” ด้วย อีกหลายคำ เพื่อให้คนที่มีความไม่รู้หรือโมหะคลายความไม่รู้ เพราะว่าเริ่มเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมนั้น แต่ว่าตัวจริงๆ ของธรรม ต้องเรียกชื่อหรือมีชื่อไหม ถ้าไม่ใช่เพื่อที่จะให้คนอื่นรู้ว่าหมายความถึงอะไร อย่างสิ่งที่ปรากฏทางตาในขณะนี้มี ถูกต้องไหม
ผู้ถาม ถูกต้อง
สุ. เพราะกำลังปรากฏ เพราะเห็น กำลังเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา ปฏิเสธไม่ได้เลย แล้วจะเรียกชื่ออะไร คนธรรมดานี่ต้องนึกแล้วใช่ไหม พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติคำที่จะให้คนที่ได้ฟังสามารถที่จะเข้าใจได้ ถ้าเป็นภาษาบาลีจะใช้คำว่า “รูปารมณ” ภาษาไทยเรียกว่า “รูปารมณ์” ความหมายก็คือสิ่งที่ปรากฏเป็นอารมณ์ของจักขุวิญญาณที่กำลังเห็น แต่เราข้ามไปตลอดเลย ไม่ได้คำนึงถึงสภาวธรรมอย่างหนึ่งซึ่งสามารถกระทบกับจักขุปสาท ไม่สามารถกระทบกับโสตปสาท
นี่คือคำที่ทรงอธิบายที่จะให้เข้าถึงความจริงของลักษณะสภาพธรรมซึ่งกำลังปรากฏ แต่ไม่รู้ จึงทรงพระมหากรุณาที่จะใช้คำต่างๆ ให้เข้าใจว่าสิ่งนี้แม้เป็นสิ่งที่มีจริงเป็นธาตุชนิดหนึ่ง เพราะเหตุว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของ บังคับให้เกิดก็ไม่ได้ บังคับไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ บังคับไม่ให้ดับก็ไม่ได้ แต่สิ่งนี้จะปรากฏต่อเมื่อต้องกระทบกับจักขุปสาทรูปเท่านั้น และจักขุปสาทรูปก็เป็นรูปที่มีจริงๆ ไม่ใช่แข็ง เพราะแข็งไม่สามารถเป็นที่อาศัยให้จิตเห็นเกิดขึ้น แต่แข็งเป็นสภาวธรรมที่มีจริงซึ่งจะรู้ได้โดยจิตอีกประเภทหนึ่ง นี่คือคำอธิบายสิ่งที่มีจริงทั้งหมดเพื่อที่จะให้ผู้ฟังค่อยๆ เข้าใจถูกต้องขึ้น เป็นความรู้จริงๆ ที่ค่อยๆ เข้าใจจนกว่าจะสามารถประจักษ์แจ้งความจริงของสภาพธรรม
ที่มา ...