ต้องการรู้สิ่งที่กำลังปรากฏไหม
อ.กุลวิไล การที่เรารู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมก็คือปัจจัยที่จะให้เรามีความเห็นถูกในสิ่งที่กำลังปรากฏ เพราะว่าถ้าเป็นธรรมแล้วก็ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เพราะฉะนั้นการอบรมปัญญาจึงเป็นความเห็นถูก ซึ่งตรงกันข้ามกับอวิชชาที่จะไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ฉะนั้นก็จะยึดถือสิ่งเหล่านี้ว่าเที่ยงแล้วก็เป็นตัวตน
สุ. ก็มีโอกาสได้ฟังพระธรรมก็หมายความถึงมีเหตุปัจจัยที่ได้สะสมมาที่ทำให้มีศรัทธามีความสนใจที่จะได้เข้าใจพระธรรมขึ้น ซึ่งขณะใดที่มีการฟังเข้าใจ ไม่ได้สูญหายไปไหนเลย ก็จะสะสมสืบต่อไป ถ้าย้อนกลับไปถึงในชาติก่อนๆ ก็คงจะได้สะสมมาแล้วบ้าง แต่จะรู้ว่ามากน้อยแค่ไหนก็ต่อเมื่อได้มีการฟังพระธรรมอีกครั้ง แต่ละครั้ง แล้วก็จะรู้ได้ว่ามีความเข้าใจเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นที่เป็นประโยชน์สูงสุดก็คือความจริง และความเป็นผู้ตรงต่อความจริง ถ้าเป็นผู้ที่ต้องการรู้สิ่งที่กำลังปรากฏก็มีหนทางเดียวคือต้องฟังอีก ต้องพิจารณาอีก ค่อยๆ เข้าใจอีกจนกว่าสามารถที่จะประจักษ์ความจริงได้ เพราะเหตุว่าสิ่งที่ได้ยินได้ฟังเป็นสิ่งที่มีจริงที่สามารถที่จะเริ่มเข้าใจ และก็พิสูจน์ได้
อ.อรรณพ ก็มีข้อความสั้นๆ ในคาถาธรรมบทภารวะ “บุคคลใดโง่ย่อมสำคัญความที่ตนเป็นคนโง่ บุคคลนั้นจะเป็นบัณฑิตเพราะเหตุนั้นได้บ้าง ส่วนบุคคลใดเป็นคนโง่ มีความสำคัญว่าตนเป็นบัณฑิต บุคคลนั้นแลเราเรียกว่าคนโง่”
ที่มา ...