แข็งเป็นแข็ง-แข็งเป็นธรรม
อ.วิชัย ตอนช่วงต้นๆ ท่านอาจารย์ได้ถามว่ารู้แข็งว่าเป็นแข็งหรือว่าเป็นธรรม สงสัยว่าการรู้แข็งว่าเป็นแข็งจะมีความต่างกันกับรู้แข็งว่าเป็นธรรมไหม ตอนแรกก็เข้าใจว่าท่านอาจารย์ให้เน้นถึงว่ารู้แข็งโดยความเป็นแข็ง ก็ยังมีความเป็นตัวตนได้ในการที่จะยึดถือว่าแข็งนั้นเป็นเรา แต่ถ้ารู้ว่าเป็นธรรมนี่ก็รู้ว่าไม่ใช่ตัวตน อย่างนี้จะเข้าใจถูกไหมครับ
สุ. แข็งเป็นสิ่งที่ปรากฏให้รู้ได้ทางกาย แน่นอนมีการกระทบทางกายเมื่อไหร่แข็งก็ปรากฏ ก็อาจจะเป็นอ่อน เป็นเย็น เป็นร้อน เป็นตึงเป็นไหวซึ่งเป็นปกติ เพราะฉะนั้นทุกคนก็จะรู้แข็งเมื่อกายวิญญาณเกิดขึ้น และแข็งกำลังปรากฏ แต่ที่จะมีความเข้าใจถูก เห็นถูกว่าแข็งเป็นแต่ลักษณะของสภาพธรรมอย่างหนึ่งเท่านั้น ขณะที่กำลังรู้ตรงแข็ง และเข้าใจถูกอย่างนี้ ขณะนั้นก็เข้าถึงความเป็นธรรมของแข็ง เพราะว่าขณะนี้แข็งก็กำลังปรากฏ แต่ก็มีเห็น มีได้ยินด้วย ไม่ใช่มีการรู้ตรงแข็งซึ่งเป็นลักษณะหนึ่ง เพราะฉะนั้นสภาพธรรมไม่เปลี่ยนเลย แต่ขึ้นอยู่กับปัญญาที่สามารถเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของแข็ง หรือในลักษณะของสภาพธรรมอย่างหนึ่งอย่างใดว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เป็นเราหรือว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพราะว่ากำลังมีลักษณะของธรรมนั้นๆ ปรากฏให้รู้ถูก ให้เข้าใจถูก และปัญญาสามารถที่จะประจักษ์การเกิดดับของแข็งนั้นด้วย เมื่อถึงกาลที่ได้อบรมแล้ว สภาพธรรมทั้งหมดคงทนต่อการพิสูจน์ มิฉะนั้นจะไม่มีวิปัสสนาญาณขั้นต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญญาต่างขั้นต่างระดับว่าถ้าเป็นนามรูปปริเฉทญาณไม่ใช่อุทยัพพยญาณ เพราะฉะนั้นความรู้ต่างกัน นี่ก็แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ขั้นเริ่มต้นที่เรากำลังรู้แข็ง ขณะนั้นเป็นความเข้าใจถูก เห็นถูกด้วยหรือเปล่า ในความเป็นลักษณะของสภาพธรรมอย่างหนึ่ง เริ่มค่อยๆ ชินกับลักษณะของสภาพธรรมแต่ละอย่างซึ่งกำลังปรากฏ แล้วแต่ว่าสติจะเกิดระลึกคือรู้ตรงนั้น ลักษณะนั้นหรือว่าไม่ได้รู้ตรงนั้น แต่ว่าเริ่มระลึกรู้บ้าง แต่ว่าขณะนั้นต้องมีปัญญาที่รู้ว่าขณะที่หลงลืมสตินั้นเป็นอย่างหนึ่ง และขณะที่สติเกิดก็เป็นอีกอย่างหนึ่งซึ่งแข็งไม่เปลี่ยน แต่ว่าความรู้ต่างกัน คือความรู้ของกายวิญญาณคือรู้เพียงแข็ง และก็ไม่รู้อะไรมากกว่านั้นเลย ก็แค่รู้แข็ง แต่รู้ว่าแข็งเป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่งจากการที่ได้ฟัง และสิ่งที่ได้ฟังก็ไม่ได้สูญหายไปไหนสะสมสืบต่อจนกระทั่งสามารถเข้าใจ ค่อยๆ เข้าใจในความเป็นธรรมของลักษณะของธรรมที่กำลังปรากฏพร้อมสติ
ที่มา ...