มีความเข้าใจในสิ่งที่ได้ฟังระดับไหน


    การฟังธรรมก็คงไม่ลืม จุดประสงค์ก็คือเพื่อให้เข้าใจธรรมอย่างเดียว แต่ว่าธรรมมีมาก และก็มีสิ่งที่กำลังปรากฏ แต่ก็ยังไม่ได้เข้าถึงความเป็นธรรมของสิ่งที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เต็มไปด้วยความไม่รู้ความจริงว่าสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ ลักษณะจริงๆ คืออะไร ด้วยความไม่รู้ในสิ่งที่ปรากฏมานานแสนนาน จนกว่าจะได้มีโอกาสฟังพระธรรม แล้วก็เวลาที่ฟังพระธรรมก็มีฉันทะที่จะเข้าใจถูก เห็นถูกในสิ่งที่ปรากฏ อันนี้แต่ละภพแต่ละชาติก็คือการที่จะสะสมความเห็นถูกความเข้าใจถูกในสิ่งที่ปรากฏว่าเป็นธรรม แม้ว่าจะกล่าวว่าเป็นธรรม กล่าวไปนานเท่าไหร่ก็ตามแต่ๆ ถ้ายังไม่รู้ว่าขณะนี้เป็นธรรม ขณะนั้นก็เป็นการสะสมความเข้าใจถูกทีละเล็กทีละน้อยจนกว่าจะค่อยๆ เข้าใจความจริงของสิ่งที่ปรากฏว่าเป็นธรรม แต่ธรรมที่เป็นปรมัตถธรรมก็มีจิต เจตสิก รูป นิพพาน ไม่เคยขาดไปเลยสำหรับจิต เจตสิก รูป ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่กำลังปรากฏแต่ว่าไม่รู้ความเป็นธรรม เช่นสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาก็เป็นรูปธรรม ตอบได้ แต่เป็นธรรมชนิดหนึ่งซึ่งปรากฏทางตา กว่าจะเข้าถึงจริงๆ เพราะฉะนั้นสำหรับในขณะนี้ สภาพรู้คือจิต และเจตสิกมีฉันทะเป็นธรรมฝ่ายดีที่มีศรัทธาที่จะเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏโดยการฟังแล้วฟังอีกจนกว่าจะค่อยๆ เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ เพราะขณะนี้ก็มีจิต แล้วก็เป็นจิตที่กำลังกล่าวถึงคือจิตที่ดีงาม เป็นกุศลจิต เพราะเหตุว่ามีฉันทะที่จะเข้าใจให้ถูกต้อง ไม่ใช่มีความไม่สนใจไม่รู้ต่อไปในสิ่งที่กำลังปรากฏ ด้วยเหตุนี้การศึกษาธรรมก็จะทำให้ผู้ที่ได้ฟังรู้จักตัวเอง สามารถที่จะรู้ว่ามีความเข้าใจในสิ่งที่ได้ฟังระดับไหน ระดับที่จำชื่อได้ หรือว่าระดับที่กำลังรู้ว่าขณะนี้มีจิตแต่ยังไม่รู้ลักษณะของจิต เพราะฉะนั้นก็ฟังเรื่องของจิตประเภทต่างๆ ซึ่งเป็นจริงในชีวิตประจำวัน และในชีวิตประจำวัน ปัจจัยที่จะให้เกิดจิตที่ไม่ดีมาก ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ถ้าบุคคลใดได้สะสมศรัทธา ฉันทะที่มีโอกาสที่จะได้ฟัง และก็สนใจพิจารณาโดยละเอียด ก็จะทำให้สามารถค่อยๆ เข้าใจความจริงว่าสภาพธรรมที่ปัญญาจะต้องรู้แจ้งแทงตลอดก็คือสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้นั่นเอง ไม่ใช่ขณะอื่นเลย


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 224


    หมายเลข 11102
    31 ส.ค. 2567