จักร ๔


    อ.วิชัย ส่วนเจตสิกบางประเภท เช่น สติเจตสิกเป็นสภาพที่ระลึกได้ โดยกล่าวคือเป็นสภาพที่ดีงาม เรียกว่าโสภณเจตสิกเป็นเจตสิกที่ดีงามซึ่งสามารถจะเกิดเป็นกุศลชาติก็ได้ เป็นวิบากก็ได้ซึ่งเป็นผลของกุศล หรือว่าเป็นกิริยาก็ได้คือเป็นจิตของพระอรหันต์ซึ่งเจตสิกเมื่อเกิดก็ต้องเป็นชาติกิริยา ดังนั้นเจตสิกต่างๆ โดยลักษณะก็มี ๕๒ ประเภท แต่โดยการเกิดขึ้น ก็แล้วแต่ว่าบางประเภทก็สามารถเป็นได้ทั้ง ๔ ชาติ หรือว่าชาติเดียว หรือว่า ๓ ชาติ

    อ.กุลวิไล ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นปัจจัยที่จะให้กุศลเกิดขึ้นต้องมีเหตุด้วย เพราะฉะนั้นการถึงพร้อมซึ่งธรรม ๔ อย่าง ย่อมถึงความไพบูลย์อันใหญ่ในมนุษย์สมบัติ ในสวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ก็คือจักร ๔ นั่นเองคือธรรม ๔ อย่างซึ่งจะต้องประกอบด้วย ๑ การอยู่ในประเทศอันสมควรซึ่งถ้าหากเราอยู่ในประเทศที่มีทุกขภิกขภัย หรือว่ามีการทำสงครามก็ยากที่จะเป็นปัจจัยให้กุศลเจริญขึ้นได้ เพราะว่าเกิดความเดือดร้อนในขณะนั้นก็ไม่มีโอกาสได้เจริญกุศลนั่นเอง แล้วก็การได้พบสัตบุรุษด้วยก็คือต้องมีผู้ที่สามารถชี้ทางให้เรารู้หนทางที่จะขัดเกลากิเลสถึงความสงบได้ ซึ่งผู้ที่เป็นสัตบุรุษสูงสุดก็คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง ข้อที่ ๓ คือการตั้งตนโดยชอบ ก็มีการฟังพระสัทธรรมเป็นต้นซึ่งก็ขาดไม่ได้การได้ยินได้ฟังพระสัทธรรม แล้วก็ข้อสุดท้ายก็คือการเป็นผู้ที่ได้ทำความดีไว้แต่ปางก่อน นี่ก็เห็นถึงความถึงพร้อมของการที่จะให้กุศลเจริญยิ่งขึ้น ถึงการที่ว่าได้มนุษยสมบัติแล้วก็สมบัติสูงสุดก็คือการที่จะได้พ้นทุกข์เลยก็คือดับอนุสัยกิเลสได้หมดเลย


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 226


    หมายเลข 11136
    31 ส.ค. 2567