ฟังจนเข้าใจว่า ทุกอย่างเป็นธรรมจรดกระดูก


    ผู้ฟัง จากการฟังท่านอาจารย์ให้เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรม

    ท่านอาจารย์ ฟังให้มีความเห็นถูก ไม่มีเราด้วย จริงๆ แล้วก็คือฟังให้มีความเห็นถูก ซึ่งความเห็นถูกก็คือสภาพธรรมอย่างหนึ่งซึ่งใช้คำว่า “ปัญญา” ความเห็นถูกต้องตามความเป็นจริงว่าขณะนี้มีสิ่งที่กำลังปรากฏซึ่งเป็นธรรมทั้งหมด ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ปรากฏ

    ผู้ฟัง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรม

    ท่านอาจารย์ จนกว่าจะเป็นอย่างนี้

    ผู้ฟัง ไม่มีเรา

    ท่านอาจารย์ ไม่มีเรากำลังได้ยินว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรม และก็เก็บเราเอาไว้ แล้วก็จะเอาเราต้องการกุศล ต้องการที่จะรู้ ต้องการที่จะประจักษ์

    ผู้ฟัง ที่เราฟังเกิดจากความเข้าใจขึ้นเรื่อยๆ ว่าขณะที่เราฟังธรรมหรือว่าขณะที่เรามาศึกษาธรรมหรือในความรู้สึกต่างๆ เป็นธรรม เป็นลักษณะที่เราจะเข้าใจขึ้นไปเรื่อยๆ และก็เข้าใจมากขึ้นจนมีความรู้ถูกเห็นถูกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งเหล่านั้นก็เป็นธรรมอีก

    ท่านอาจารย์ ถูกต้อง

    ผู้ฟัง เป็นสิ่งที่มีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นโลภะ ขณะที่สติเกิด โลภะ โทสะที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันคือเป็นธรรมทั้งหมด

    ท่านอาจารย์ ถูกต้อง โลภะก็เป็นธรรมด้วย โทสะก็เป็นธรรม ทุกอย่างก็เป็นธรรม ค่อยๆ เข้าใจขึ้น เพราะฉะนั้นการฟังก็เหมือนกับการเตือนให้ไม่ลืม ไม่ว่าจะเกิดโทสะถ้าระลึกได้ ขณะนั้นเป็นลักษณะของสภาพธรรมอย่างหนึ่ง ฟังจนกระทั่งความเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรมจรดกระดูกคือไม่ลืม จึงสามารถที่จะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมถูกต้องยิ่งขึ้นได้


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 240


    หมายเลข 11663
    28 ส.ค. 2567