ธรรมแต่ละอย่างไม่ใช่เรา
ขณะนี้ ไม่ใช่เราเลย รู้สิ่งที่แข็งไหมคะ เป็นวิถีจิต หรือจิตที่ไม่ใช่วิถี เป็นวิถีจิต รู้แข็งนิดเดียว หรือว่ามีจิตหลายขณะโดยเราไม่รู้เลยว่า เพียงที่เราคิดว่านิดเดียว ความจริงมีจิตหลายขณะซึ่งรู้แข็งที่ยังไม่ดับ
เริ่มเห็นความละเอียดว่า แข็งที่กำลังปรากฏ ความจริงเกิดแล้วก็ดับ แต่ไม่เคยปรากฏ นี่คือการศึกษาธรรมให้เข้าใจในความเป็นธรรม ในความเป็นธาตุ ในสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏ จนกว่าจะเข้าใจถูกต้องว่าไม่ใช่เราเลย
เพราะฉะนั้นแข็งขณะนี้กำลังปรากฏ มีจิตหลายขณะที่กำลังรู้แข็ง จิตที่รู้แข็งทั้งหมดเป็นวิถีจิต เร็วมาก แข็งเกิดแล้วก็ดับ แต่ก็ปรากฏเสมือนว่าไม่ดับเลย ทุกขณะ อย่างทางตาที่เห็น ก็มีจิตที่กำลังเห็น แล้วก็มีชอบ ไม่ชอบในสิ่งที่เห็น หลายขณะที่เป็น วิถีจิตทางตา แต่ก็ไม่รู้เพราะความรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นทางทวารไหน จิตเกิดดับเร็ว ประมาณไม่ได้เลย เหมือนกับไม่ปรากฏการเกิด และดับ แต่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้ และทรงแสดงลักษณะของจิตต่างๆ ซึ่งเป็นจิตที่ไม่ใช่วิถีบ้าง แล้วก็เป็นวิถีจิตบ้าง รวมทั้งสภาพธรรมที่เกิดกับจิตนั้นๆ และปัจจัยที่ให้จิตนั้นๆ เกิดขึ้น เพื่อให้เห็นความจริงของธาตุหรือธรรมแต่ละอย่างว่า ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล
เพราะฉะนั้นก่อนที่วิถีจิตแรกจะเกิด จิตกำลังทำกิจอะไรคะ ภวังคกิจ
มีใครไม่เข้าใจตอนนี้บ้างไหมคะ
กำลังเป็นภวังค์ ซึ่งถ้าจะนับขณะแรกที่ปฏิสนธิ เมื่อปฏิสนธิจิตดับไปแล้ว จะเห็นทันทีไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นภพไหนชาติไหนทั้งสิ้น กรรมจะต้องทำให้วิบากจิตเกิดสืบต่อ จนกว่าจะถึงวิถีจิต แล้วแต่ว่าวิถีจิตนั้นจะรู้อารมณ์ทางตา หรือทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจก็ตามแต่ แต่ความละเอียดก็มีอีกว่า หลังจากที่ปฏิสนธิจิตเกิด และดับไปแล้ว ภวังคจิตเกิดดำรงภพชาติแล้ว วิถีจิตของสัตว์โลกทุกภพ ทุกชาติ ทุกภูมิ ต้องเป็นโลภะ ความติดข้องในชีวิต ในความเป็นทางมโนทวาร แม้ว่ายังไม่เห็น ยังไม่ได้ยิน ยิ่งในภูมิมนุษย์ จักขุปสาทก็ยังไม่เกิด โสตปสาทก็ยังไม่เกิด แต่วิถีจิตทางใจเกิดแล้วทันทีที่รู้สึกตัว คือ มีความติดข้องในภพในชาตินั้นทันที
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ละเอียดขึ้นๆ แต่ให้ทราบความหมายของวิถีจิตกับภวังคจิต ซึ่งไม่ใช่วิถีจิตก่อน
ที่มา ...