ความเข้าใจลักษณะของสิ่งที่ปรากฏทางตา
ชมชื่น คำว่า “สิ่งที่ปรากฏ” และท่านอาจารย์ก็แสดงว่า มีสิ่งที่ปรากฏ แค่นั้นเอง อย่างตอนนี้ที่กำลังเห็น ก็เห็นท่านอาจารย์กำลังนั่ง ใส่เสื้อ ใส่กระโปรง เห็นแบบนี้ไปเลย ไม่ใช่มีสิ่งที่ปรากฏเท่านั้น
สุ. สิ่งที่ปรากฏทางตาจะเป็นอื่นได้ไหม เฉพาะสิ่งที่ปรากฏทางตา
การฟังธรรม เป็นการสะสมความเห็นถูก ความเข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏ เพราะฉะนั้นสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ เหมือนเรารู้แล้ว แต่ความจริงเราไม่ได้รู้ตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้นกว่าจะรู้ได้ตามความเป็นจริง ต้องเป็นความเห็นถูก ความเข้าใจถูกจากการฟัง ค่อยๆ เข้าใจขึ้น
เพราะฉะนั้นการฟังธรรม ไม่ใช่เพื่อเหตุอื่นเลย อย่าไปคิดว่าเพื่อจะรู้แจ้งนิพพาน หรือว่าเพื่อดับกิเลสหมด หรือเพื่อจะได้ไปทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ถูกต้องค่ะ การฟังธรรมเพื่อสะสมความเห็นถูก ความเข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏ ส่วนเรื่องละหรือเรื่องประจักษ์แจ้งนั้น เป็นหน้าที่ของสภาพธรรมที่ได้ฟัง และเข้าใจว่า ไม่ใช่เรา ขณะนี้ความเห็นผิดก็คือว่า ไม่เคยรู้เลยว่า ธรรมแต่ละลักษณะเป็นธรรม แม้ว่ากำลังฟัง ฟังเข้าใจ ธรรมคือสิ่งที่มีจริงๆ แต่ยังไม่ได้ลึกลงไปถึงว่า สิ่งที่มีจริงนั้นเป็นธรรมอย่างไร คือ ไม่มีใครสามารถบันดาลให้เกิดขึ้นได้ ไม่มีใครสามารถบังคับบัญชาได้ แม้ขณะที่กำลังฟัง ก็มีธรรมปรากฏให้เราฟังเรื่องสิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏบ่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าความเข้าใจของเราจะมั่นคง เป็นภาวนา คือ การสะสมอบรมปัญญาที่จะรู้จริง ประจักษ์แจ้งลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ แต่ไม่ใช่โดยการหวังอย่างอื่นเลย โดยไม่รู้ความจริง
เพราะฉะนั้นต้องทราบว่า ฟังเพื่อเข้าใจขึ้น อาทิตย์ก่อน เดือนก่อน ปีก่อนก็ฟังเรื่องสิ่งที่ปรากฏทางตา เริ่มมีความเข้าใจว่า มีจริงๆ แต่ที่จะไม่ใช่เรา และเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏเท่านั้น เห็นไหมคะ อย่างที่คุณชมชื่นบอกว่า มันเลยเป็นอื่น เป็นคนกำลังนั่ง ใส่เสื้อ อะไรต่างๆ เหล่านี้ แต่ตามความเป็นจริงจะเปลี่ยนลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาเท่านั้น ให้เป็นอื่นได้ไหมคะ ให้เป็นเสียงได้ไหม สิ่งที่ปรากฏ เปลี่ยนให้เป็นเสียงได้ไหม
ชมชื่น ไม่ได้ค่ะ
สุ. เปลี่ยนสิ่งที่ปรากฏทางตาให้เป็นกลิ่นได้ไหมคะ
ชมชื่น ไม่ได้ค่ะ
สุ. เพราะฉะนั้นลักษณะที่แท้จริงของสิ่งที่ปรากฏทางตา ให้เข้าใจว่าเป็นธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งปรากฏกับจิตที่กำลังเห็น ให้เข้าใจถูกอย่างนี้ ทีละเล็กทีละน้อยจนกว่าจะไม่มีเรา จนประจักษ์แจ้งความจริงของสภาพธรรมได้ แต่ต้องอาศัยความเข้าใจว่า ขณะนี้แม้มีสิ่งที่กำลังปรากฏ กำลังฟังเรื่องสิ่งที่กำลังปรากฏ แต่ความเข้าใจจริงๆ ในสิ่งที่กำลังปรากฏเริ่มมีหรือยัง ถ้ามี ต้องเป็นผู้มีเหตุผล คือ รู้ว่ามีได้เพราะอะไร ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็เข้าใจว่ามีแล้ว แต่ไม่รู้ว่า เพราะอะไร
นี่คือการที่จะต้องฟังต่อไปอีก จนกระทั่งเป็นความเข้าใจเพิ่มขึ้น ถ้าไม่มีความเข้าใจเพิ่มขึ้น ไม่มีทาง เราจะฟังไปอีกตลอดชีวิต สิ่งที่ปรากฏทางตา ก็ปรากฏไป แต่ว่าความเข้าใจลักษณะของสิ่งที่ปรากฏทางตา ไม่ได้เพิ่มขึ้น ถ้าเพียงฟัง
เพราะฉะนั้นการฟังแต่ละครั้ง ก็จะทำให้รู้ความจริงว่า ขณะนี้แม้มีสิ่งที่กำลังปรากฏ แต่ความเข้าใจลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ จากการฟังทีละเล็กทีละน้อย เหมือนกับการจับด้ามมีด ใครรู้บ้างคะว่า ถึงแค่ไหนแล้ว ด้ามมีดนี่ชาตินี้จะสึกไหมคะ ถ้าจับ ชาตินี้ชาติเดียวค่ะ ด้ามมีดใหญ่ขนาดไหน ต้องรู้ใช่ไหมคะ แล้วจับมาแล้วเท่าไร จึงจะสึกได้ แต่ถ้าด้ามมีดนั้นใหญ่โตมาก แล้วก็เริ่มจับ ชาตินี้ชาติเดียวจะสึกได้ไหม
เพราะฉะนั้นแม้มีสิ่งที่กำลังปรากฏ แต่ก็จะเห็นความจริงว่า อวิชชา ความไม่รู้มากมายมหาศาลแค่ไหน เพราะเราไม่ได้เกิดมาชาตินี้ชาติเดียว แต่ในชาติก่อนๆ ก็จะต้องมีการสะสมการฟัง มีศรัทธาเห็นประโยชน์ ไม่เบื่อหน่ายในการที่จะฟัง แม้บางครั้งจะรู้สึกว่าซ้ำอยู่นั่นแหละ ก็เห็นอยู่นั่นแหละ แล้วก็ไม่รู้อยู่นั่นแหละ และจะให้ทำอะไร ถ้าไม่ฟังจนกว่าจะค่อยๆ เข้าใจขึ้น
เพราะฉะนั้นก็เป็นผู้ตรง และมีหนทางเดียวที่จะรู้ว่า แม้ขณะนี้มีสิ่งที่กำลังปรากฏ เป็นการพิสูจน์ตัวเองให้รู้ว่า ปัญญาที่เกิดจากการฟังระดับไหน แล้วก็ยังไม่พอ ก็ฟังต่อไป เพื่อที่จะได้เข้าใจต่อไป
เพราะฉะนั้นตอนนี้เริ่มมีความเข้าใจ คำถามที่ว่า สิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้นหรือยัง
ชมชื่น ยังค่ะ ก็เข้าใจในขั้นของการฟัง และเข้าใจแค่พยัญชนะที่ประกอบกันว่า เป็นสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น
สุ. ไม่พอใช่ไหมคะ
ชมชื่น ไม่พอค่ะ
สุ. แล้วจะรู้กว่านี้ได้ไหม
ชมชื่น ท่านอาจารย์ก็เคยแสดงแล้วว่า ให้ฟัง ให้ฟังอย่างเดียว
สุ. มีผู้ที่รู้กว่านี้หรือเปล่า
ชมชื่น มีค่ะ
สุ. แล้วผู้ที่ได้ฟัง สะสมไป วันหนึ่งจะรู้อย่างนั้นได้ไหม
ชมชื่น ได้ค่ะ
สุ. ค่ะ เมื่อไรรู้ว่า เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา นั่นคือความถูกต้อง ตั้งแต่ขั้นฟัง ขั้นไตร่ตรอง ขั้นพิจารณาจนกว่าจะค่อยๆ รู้จริงๆ แต่จะรู้จริงเมื่อประจักษ์แจ้งในลักษณะนั้นเท่านั้น
ที่มา ...