ความยากของการละความเป็นตัวตน
นี่คือความยากของการละความเป็นตัวตน ด้วยการมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงจริงๆ ที่จะรู้ว่า ลักษณะนี้เป็นสิ่งที่พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงความจริงว่า เป็นสภาพธรรมที่เป็นธรรม เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน
ด้วยเหตุนี้ฟังขณะนี้ มีสิ่งที่กำลังปรากฏ แล้วแต่ว่ามีความเข้าใจถึงระดับไหน ถ้าถึงระดับที่รู้ว่า เป็นธรรมชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง กำลังเห็น แต่ไม่สามารถจะรู้จนกระทั่งประจักษ์แจ้งลักษณะนั้นได้
เพราะฉะนั้นก่อนอื่นต้องรู้ความต่างของขณะที่สติสัมปชัญญะเกิดกับขณะที่สติสัมปชัญญะไม่เกิด
มีข้อความในปฏิสัมภิทามรรค รูปปรากฏแน่นอนกับจิตที่กำลังรู้รูปนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ปรากฏทางตา จิตเห็นเกิด รูปก็ปรากฏกับจิตเห็น เสียงมี ปรากฏกับจิตได้ยิน กลิ่นปรากฏกับจิตรู้กลิ่น รสปรากฏกับจิตลิ้มรส แข็ง อ่อน เย็น ร้อน ตึงไหว ปรากฏกับจิตที่รู้สิ่งนั้นทางกาย แต่ไม่ ปรากฏดี ดีทีนี่ ไม่ได้หมายความว่าเป็นกุศล แต่ปรากฏโดยไม่รู้ อย่างอ่อนแข็งที่กำลังปรากฏ ปรากฏเสมอกับทุกคนที่มีกายปสาท แต่ไม่ได้ปรากฏดี ตามความเป็นจริง ดี คือ เกิดแล้วดับ ดี คือ เป็นลักษณะของสภาพธรรมชนิดหนึ่งจริงๆ
เพราะฉะนั้นเมื่อสติสัมปชัญญะเกิดเมื่อไร จะสังเกตได้ว่า เมื่อแข็งที่เมื่อกี้ก็ปรากฏ แต่ปรากฏดีกับสติ ดี คือ ลักษณะนั้นปรากฏ เพราะเหตุว่าสติกำลังรู้ ไม่ใช่เพียงปรากฏกับกายวิญญาณเท่านั้น
เพราะฉะนั้นนี่ก็แสดงให้เห็นความต่างกันของของขณะที่สติสัมปชัญญะเกิด ที่เป็นสติปัฏฐาน กับขณะที่หลงลืมสติ เป็นปกติ แต่สภาพธรรมปรากฏดี เพราะเหตุว่าลักษณะนั้นปรากฏจริงๆ ในขณะเวลาที่สติสัมปชัญญะไม่ได้เกิด แม้จิตรู้ลักษณะนั้น ลักษณะก็ไม่ปรากฏจริงๆ เหมือนกับที่ปรากฏกับสติสัมปชัญญะที่เป็นสติปัฏฐาน
ที่มา ...