จิตที่พ้นจากวิถี
ผู้ฟัง ความสงสัยของดิฉันมีไปอีกเรื่องหนึ่งแล้วค่ะ คือ จิต มนายตนะ เป็นอายตนะภายใน แต่เกิดกับหทยวัตถุ
สุ. เกิดที่หทยวัตถุในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ถ้าในภูมิที่ไม่มีขันธ์ ๕ ไม่ต้องมีหทยวัตถุเป็นที่เกิด
ผู้ฟัง ซึ่งเป็นอายตนะภายนอก ไม่เข้าใจว่า จะมาเกี่ยวข้องกันอย่างไร
สุ. ภายในจริงๆ ขณะเห็น รูปอะไร ต้องมีขาดไม่ได้เลย ในขณะนั้นจริงๆ คือ จักขุปสาทสำหรับจิตเห็น เกิดที่นั่นด้วย
ผู้ฟัง แต่ถ้าเป็นมนายตนะ
สุ. มนายตนะเป็นธาตุรู้ เป็นใหญ่ เป็นประธาน ขณะนั้นในภูมิที่ไม่มีขันธ์ ๕ ก็ยังเกิดได้
ผู้ฟัง หมายความว่าไม่ได้อาศัยหทยวัตถุ ก็ยังเกิดได้
สุ. เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้ว ก็คือว่า มีอายตนะ ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นอกจากนั้นที่เหลือก็ไม่ยากจะเข้าใจว่าเป็นภายนอกทั้งหมด
ผู้ฟัง อยากให้คุณธิดารัตน์ช่วยกล่าวถึงจิตที่ไม่เป็นวิถีบ้างค่ะ อยากจะทราบว่า มีอะไรบ้างที่ไม่เป็นวิถี มีใช่ไหมคะในภูมิที่มีขันธ์ ๕
อ.ธิดารัตน์ ขณะที่ไม่ใช่วิถีจิต ก็เริ่มต้นตั้งแต่ขณะแรกเลย คือ ขณะที่ปฏิสนธิ ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น จิตขณะนั้นไม่ใช่วิถีจิต เพราะว่าเป็นจิตที่พ้นจากวิถี ปฏิสนธิ แล้วหลังจากนั้นก็เป็นภวังคจิต ภวังคจิตก็ทำกิจดำรงภพชาติ ดำรงความเป็นบุคคลนี้ ไม่ว่าจะเป็นปฏิสนธิจิต ภวังคจิต จุติจิต ก็คือจิตสุดท้ายที่จะทำหน้าที่เคลื่อนจากภพนี้ ก็เป็นจิตที่เป็นวิบาก เป็นผลของกรรมในอดีตที่ได้ทำแล้ว ให้ผลเป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิในภพภูมิใด กรรมนั้นก็จะเป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิในภพภูมินั้น ก็คือให้ผลเป็นปฏิสนธิจิตแล้วก็ยังให้ผลเป็นภวังคจิต ขณะที่เราหลับ ไม่มีอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจใดๆ เลย แต่ก็มีจิตที่ทำกิจดำรงภพชาติ ก็คือเรายังไม่ตาย ขณะที่หลับ เราไม่ได้ตาย เพราะมีภวังคจิตทำหน้าที่ดำรงภพชาติให้เราเป็นบุคคลนั้นอยู่ จนถึงจุติจิต
ผู้ฟัง ความหมายที่ว่า ไม่เป็นวิถี ก็คือเกิดขณะเดียวแล้วก็ดับ ไม่มีการต่อเนื่องแบบที่เป็นวิถีจิตที่เกิดต่อ อย่างนั้นหรือคะ
อ.ธิดารัตน์ ภวังคจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนเลยค่ะ ถึงแม้ขณะที่เราคิดว่า เราตื่นอยู่ แล้วก็มีการเห็น วาระของการเห็น คือ วิถีจิตที่เป็นจักขุทวารวิถีดับไปจะต้องมีภวังคจิตคั่นหลายวาระมากเลย นับไม่ได้เลย ก่อนที่มโนทวารจะเกิดขึ้นแล้วรู้สีที่เพิ่งดับไป เพราะฉะนั้นแต่ละวิถีจิตในชีวิตประจำวัน จะมีภวังค์คั่นระหว่างวิถีตลอดเลย
ที่มา ...