ไม่หลงลืมที่จะรู้ลักษณะ จนกว่าจะทั่ว
คุณอุไรวรรณ มีคำถามจากท่านผู้ฟัง กราบเรียนถามท่านอาจารย์ว่า บางครั้งหนูมีความสุข ความพอใจ ก็พอจะเข้าใจได้ว่า เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะจิตเดียวที่ไม่เที่ยง แต่พอทุกครั้งที่หนูป่วย ไม่สบาย หนูรู้สึกว่าจิตตก กระวนกระวาย ฟังธรรมก็รู้สึกเบื่อ เซ็ง จนต้องปิดวิทยุ เหมือนคนพาลที่กำลังมีโทสะมาก ถ้าเป็นอย่างนี้ ขอความกรุณาท่านอาจารย์ช่วยชี้แนะทางให้หนูได้ประการใดบ้างคะ ขอบพระคุณค่ะ
ท่านอาจารย์ ก็จะชี้แนะโดยการบอกว่า ลืมแล้วว่าเป็นธรรมทั้งหมด แค่ฟังเข้าใจว่าเป็นธรรม เสร็จแล้วก็ลืมอีกว่าเป็นธรรม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ลืมว่า เป็นธรรม แม้ว่าฟังแล้วก็เข้าใจว่า ทุกอย่างเป็นธรรม
ผู้ฟัง จะเรียนท่านอาจารย์ว่า เวลามีความทุกข์ใจ ก็เป็นธรรม เดี๋ยวก็ผ่าน แต่เวลามีทุกข์ใจจริงๆ ยิ่งลืมหนักว่าเป็นธรรม มันเป็นทุกข์ และก็ผ่านยาก
ท่านอาจารย์ ตัวจริงปรากฏให้รู้อย่างที่เรียน ทุกข์มีไหม ทุกขเวทนามีไหม เวลาไม่เกิด ก็รู้สึกว่า มี ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกิด ไม่ได้ปรากฏ แต่พอตัวจริงปรากฏ ไม่รู้ แล้วอย่างนี้จะชื่อว่า เข้าใจธรรมหรือเปล่า ก็แสดงว่า เรายังไม่ได้เข้าใจธรรมโดยถ่องแท้ เข้าใจบางเรื่องบางคำ บางชื่อ บางตอน บางเหตุการณ์ แต่ไม่รู้ว่า ทั้งหมดเป็นธรรม
ผู้ฟัง เข้าใจขั้นฟัง แล้วนึกได้บ้างว่า จริงๆ ก็คือธรรม เกิดดับ แล้วเดี๋ยวก็ผ่านไป อย่างความทุกข์ใจจะชัดเลย แต่เหมือนอวิชชาเรามาก ก็ทุกข์อยู่ตรงนั้น คิดอยู่ตรงนั้น
ท่านอาจารย์ แล้วทุกข์เป็นธรรมหรือเปล่า
ผู้ฟัง เป็น เพราะเกิดดับ
ท่านอาจารย์ ตอนนี้ตอบได้ แต่ตอนเป็นทุกข์ตอบไม่ได้ ตอนกำลังเป็นทุกข์ เป็นเรา ลืมแล้วว่าเป็นธรรม
ผู้ฟัง เป็นเราเป็นทุกข์ ไม่ยอมรับว่าทุกข์ก็คือธรรม
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นจนกว่าจะไม่ลืม ฟังเพื่อที่จะไม่ลืม เราไม่ลืมตั้งหลายเรื่อง เรื่องบ้าน เราไม่ลืม เรื่องญาติ เราไม่ลืม เรื่องธุรกิจการงาน เราไม่ลืม คุ้นเคยตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงขณะนี้ แต่ไม่คุ้นเคยว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นธรรม เพราะฉะนั้นกว่าจะคุ้นเคยด้วยการระลึกได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ต้องเกิดตามเหตุตามปัจจัย ไม่มีปัจจัยที่จะให้เกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น จะเป็นได้อย่างไร
เพราะฉะนั้นบางครั้งทุกข์น้อย บางครั้งทุกข์มาก บางครั้งทุกข์กาย บางครั้งทุกข์ใจ ไม่มีใครบังคับได้เลย สมควรแก่เหตุที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น ก็เป็นอย่างนั้น จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ได้ จะให้น้อยกว่านั้น จะให้มากกว่านั้นก็ไม่ได้ เพราะเหตุว่าเป็นธรรมซึ่งไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้นเมื่อตัวจริงปรากฏ แล้วยังไง ที่ฟังไปก็ลืม ก็ต้องฟังบ่อยๆ จนคุ้นเคยมากๆ
ผู้ฟัง เมื่อฟังศึกษาแล้วก็รู้ว่า ความทุกข์ก็เป็นธรรม เกิดดับ ไมใช่เรา เป็นอนัตตา แต่ลึกๆ ก็ยังเป็นเรา แล้วก็ทุกข์อยู่อย่างนั้น
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นจนกว่าจะถึงความเป็นพระโสดาบัน จะดับการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เพราะไม่ว่าสภาพธรรมใดปรากฏ ไม่หลงลืม ซึ่งปกติหลงลืม ก็จะเกิดการไม่หลงลืมที่จะรู้ลักษณะซึ่งเป็นธรรมที่กำลังปรากฏ ทีละลักษณะ จนกว่าจะทั่ว ถ้าไม่ทั่ว บางอย่างก็ยังคงเป็นเราอยู่
ที่มา ...