อยากให้สติปัฏฐานเกิด


    ผู้ฟัง จริงๆ แล้วถ้าพูดถึงเรื่องสติปัฏฐานก็เพราะอยากให้สติปัฏฐานเกิด เพราะว่า จากที่ฟังมาเหมือนว่า ถ้าเกิดแล้วจะมีสิ่งที่รู้ได้ คือ มันไม่ใช่เรา และเป็นอนัตตาด้วย เพราะว่าไม่ได้ตั้งใจก็เกิดขึ้น ตรงนี้ที่อยากให้ปรากฏอย่างนั้น แม้ในความคิดนึก

    ท่านอาจารย์ แต่ต้องทราบว่า สติปัฏฐานที่เกิดน้อยไหม สั้นไหม และความไม่รู้ ไม่รู้อีกเยอะไหม เพราะพอสติปัฏฐานดับไปแล้ว ก็ไม่รู้อีกแล้ว สติปัฏฐานก็ไม่ได้เกิดอีกแล้ว

    ผู้ฟัง แม้สติปัฏฐานเกิด หลังจากเกิดแล้วก็ทำให้เราคิดถึงเรื่องราวว่ามันเป็นอย่างไร

    ท่านอาจารย์ เริ่มรู้ความต่างของขณะที่หลงลืมสติ กับขณะที่สติปัฏฐานเกิดด้วยตัวเอง

    ผู้ฟัง แม้แต่จิตกับเจตสิกที่เกิดร่วมกัน แต่ลักษณะที่สติเกิดระลึกรู้ก็รู้อย่างเดียว ตรงนี้ ที่รู้สึกว่าไม่ต้องถามใครถ้ามันเกิดอย่างนั้นจริงๆ

    ท่านอาจารย์ เป็นเรื่องการฟังเข้าใจขึ้นแล้วก็อบรม แล้วทั้งหมดที่ได้ยินได้ฟังจะกระจ่างเมื่อปัญญารู้ลักษณะนั้นด้วยปัญญาที่เจริญขึ้น ไม่อย่างนั้นก็เป็นชื่อทั้งหมด อย่างขันธ์ก็บอกได้เลย ๑๑ ประการ มีอะไรบ้าง แต่เดี๋ยวนี้เป็นขันธ์ หรือไม่ เมื่อไม่ระลึกจะกล่าวได้อย่างไรว่า ขณะนี้ต่างกับขณะก่อน ข้อสำคัญคิดล่วงหน้าเสมอ แม้ในขณะที่สิ่งที่ปรากฏทางตากำลังปรากฏ ล่วงหน้าเป็นคนแล้ว เพราะอะไร เพราะไม่ได้เข้าใจลักษณะที่เป็นสภาพธรรมที่ปรากฏ ก็ติดอยู่ตรงนี้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า ตรงไหนที่ติด ตรงไหนที่ไม่รู้ ตรงไหนที่ไม่เข้าใจ และตรงไหนที่กล่าวว่า ไม่คำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว และสิ่งที่ยังไม่มาถึง เพราะขณะนี้มีสิ่งที่กำลังปรากฏ ฟังจนกว่าเมื่อไรเริ่มเข้าใจ จะต้องกล่าวไหมว่า สติเกิดเพราะกำลังมีสิ่งที่ปรากฏ และกำลังเริ่มเข้าใจถูก


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 370


    หมายเลข 12991
    31 ส.ค. 2567