กามาวจรโสภณจิต ๒๔ ดวง
โสภณจิตที่เป็นกามาวจร
กามาวจรจิตทั้งหมดมี ๕๔ ดวง เป็นอกุศลจิต ๑๒ ดวง เป็นอเหตุกจิต ๑๘ ดวง จิตทั้ง ๓๐ ดวงนี้ไม่เกิดร่วมกับโสภณเจตสิก จึงเป็นอโสภณจิต ไม่ใช่จิตที่ดีงาม อกุศลจิตไม่ดีงามแน่ อเหตุกจิตก็ไม่ดีงาม เพราะไม่มีโสภณเจตสิกเกิดร่วมด้วย ที่เหลือคือกามาวจรจิต ๒๔ ดวง ทั้งหมดเป็นกามาวจรโสภณจิต ๒๔ ดวง
เหตุที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอกุศลจิตก่อน เพราะว่าเกิดบ่อย ควรรู้ และเป็นเหตุที่จะให้เกิดวิบากต่อไป
พิสูจน์ได้ ใช่ไหม วันนี้กุศลจิตเกิดมาก หรืออกุศลจิตเกิดมาก ถ้าจิตใดเกิดมาก ควรรู้จิตนั้นไหม เพื่อที่จะได้สังวร เพื่อที่จะได้ระวัง โดยสภาพของความเป็นปุถุชน มีใครว่ากุศลมากกว่าบ้าง มีไหม ตามความเป็นจริง
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็ควรศึกษาเรื่องของอกุศลจิตก่อนว่า ไม่ว่าจะเห็น จะได้ยิน จะได้กลิ่น จะลิ้มรส จะรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส หรือแม้แต่คิดนึก ก็ด้วย โลภะบ้าง โทสะบ้าง ส่วนกุศลจิตในวันหนึ่งๆ เกิดน้อย และไม่ได้เกิดโดยง่าย บางทีอาจจะคิดเรื่องกุศล เพียงคิด แต่กุศลนั้นสำเร็จไหม นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้จริงๆ ว่า ที่ทรงแสดงอกุศลจิตก่อนเพราะว่า อกุศลจิตเกิดบ่อย และอกุศลจิตนั้นมาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าไม่มีอเหตุกจิต คือ จิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ซึ่งล้วนแต่เป็นอเหตุกจิตทั้งนั้น ถ้าไม่เห็นอกุศลจิตก็เกิดไม่ได้ แต่เพราะอเหตุกจิตเกิดขึ้น เป็นผลของกรรมทำให้รูปกระทบกับปสาท และเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา และทันทีที่เห็น อกุศลจิตเกิดต่อตามลำดับของวิถีจิตในวาระของการเห็นครั้งหนึ่งๆ ทางหูก็เหมือนกัน เมื่อได้ยินแล้วอกุศลจิตก็เกิดต่อ ซึ่งในวันหนึ่งๆ เห็นเท่าไรเมื่อยังไม่ได้หลับตา และได้ยินอีกเท่าไรในวันหนึ่งๆ เพราะฉะนั้น อกุศลจะมากสักแค่ไหน
ที่มา ...