พระภิกษุไม่แสดงความเคารพคฤหัสถ์


    สำหรับผู้ที่เป็นพระภิกษุนั้น เป็นผู้ที่ทรงคุณมาก เพราะฉะนั้น พระภิกษุย่อมไม่แสดงความเคารพคฤหัสถ์ แต่ย่อมแสดงความเคารพพระรัตนตรัย คือ พระผู้มีพระภาค พระธรรม และพระสงฆ์


    การที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดมีศรัทธาที่จะบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นการกระทำที่ยาก ไม่ใช่การกระทำที่ง่ายเลย พระผู้มีพระภาคทรงโอวาทเพื่อที่จะให้บุคคลนั้นขัดเกลา และมีความประพฤติเป็นไปให้สมกับเพศ คือ สมณเพศซึ่งเป็นบรรพชิต

    ท่านผู้ฟังจะเห็นได้ว่า สำหรับผู้ที่เป็นพระภิกษุนั้น เป็นผู้ที่ทรงคุณมาก เพราะฉะนั้น พระภิกษุย่อมไม่แสดงความเคารพคฤหัสถ์ แต่ย่อมแสดงความเคารพพระรัตนตรัย คือ พระผู้มีพระภาค พระธรรม และพระสงฆ์

    สำหรับการที่พระภิกษุไม่แสดงความเคารพคฤหัสถ์ แม้ผู้ที่มีวัยสูงกว่า ก็เป็นที่สงสัยของบางท่าน แม้ในครั้งพุทธกาล ซึ่งเห็นว่าบุคคลควรเคารพในวัยหรือว่าในอายุ

    ขอกล่าวถึง อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต ปฐมปัณณาสก์ ข้อ ๒๘๓ ซึ่งมีข้อความว่า

    สมัยหนึ่ง ท่านพระมหากัจจานะอยู่ที่ป่าคุนทาวัน ใกล้เมืองมธุรา ครั้งนั้นแล พราหมณ์กัณฑรายนะเข้าไปหาท่านพระมหากัจจานะถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่าน พระมหากัจจานะ ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ถามว่า

    ดูกร ท่านกัจจานะ ข้าพเจ้าได้ฟังมาดังนี้ว่า ท่านสมณะกัจจานะหาอภิวาท ลุกขึ้นต้อนรับพวกพราหมณ์ที่ชราแก่เฒ่าล่วงกาลผ่านวัย หรือเชื้อเชิญด้วยอาสนะไม่ ดูกร ท่านกัจจานะ ข่าวที่ได้ฟังมานั้นจริงแท้ เพราะท่านกัจจานะหาอภิวาท ลุกขึ้นต้อนรับพวกพราหมณ์ที่ชราแก่เฒ่าล่วงกาลผ่านวัย หรือเชื้อเชิญด้วยอาสนะไม่ ดูกร ท่านกัจจานะ การกระทำเช่นนี้นั้น เป็นการไม่สมควรแท้ ฯ

    ท่านผู้ฟังจะเห็นได้ว่า ในครั้งนั้นเวลาที่มีข้อข้องใจประการใด ท่านก็ถามกัน ตรงๆ เพื่อต้องการเหตุผล เมื่อเห็นว่าพระภิกษุในพระพุทธศาสนาไม่ต้อนรับ เชื้อเชิญบุคคลที่มีวัยสูงกว่า ท่านก็ใคร่ที่จะได้ทราบเหตุผล เพราะฉะนั้น ท่านก็ถามท่าน พระมหากัจจานะตรงๆ

    ท่านพระมหากัจจานะตอบว่า

    ดูกร พราหมณ์ ภูมิคนแก่ และภูมิเด็ก ที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัม-พุทธเจ้าผู้ทรงรู้ทรงเห็นพระองค์นั้นตรัสไว้มีอยู่ ดูกร พราหมณ์ ถึงแม้จะเป็นคนแก่มีอายุ ๘๐ ปี ๙๐ ปี หรือ ๑๐๐ ปีแต่กำเนิดก็ดี แต่เขายังบริโภคกาม อยู่ในท่ามกลางกาม ถูกความเร่าร้อนเพราะกามแผดเผา ถูกกามวิตกเคี้ยวกินอยู่ ยังเป็นผู้ขวนขวายเพื่อแสวงหากาม เขาก็ย่อมถึงการนับว่าเป็นพาล ไม่ใช่เถระโดยแท้ ดูกร พราหมณ์ ถึงแม้ว่าจะเป็นเด็ก ยังเป็นหนุ่ม มีผมดำสนิท ประกอบด้วยความเป็นหนุ่มอันเจริญ ยังตั้งอยู่ในปฐมวัย แต่เขาไม่บริโภคกาม ไม่อยู่ในท่ามกลางกาม ไม่ถูกความเร่าร้อนเพราะกามแผดเผา ไม่ถูกกามวิตกเคี้ยวกิน ไม่ขวนขวายเพื่อแสวงหากาม เขาก็ย่อมถึงการนับว่าเป็นบัณฑิต เป็นเถระแน่แท้ทีเดียวแล

    ทราบว่า เมื่อท่านพระมหากัจจานะกล่าวอย่างนี้แล้ว พราหมณ์กัณฑรายนะได้ลุกจากที่นั่ง แล้วห่มผ้าเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ไหว้เท้าของภิกษุที่หนุ่มด้วยเศียรเกล้ากล่าวว่า

    พระผู้เป็นเจ้าแก่ ตั้งอยู่แล้วในภูมิคนแก่ เรายังเด็ก ตั้งอยู่ในภูมิเด็ก ข้าแต่ท่านกัจจานะ ภาษิตของท่านแจ่มแจ้งนัก ข้าแต่ท่านกัจจานะ ภาษิตของท่านแจ่มแจ้งนัก ท่านพระกัจจานะประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่ผู้หลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า คนมีจักษุจักเห็นรูป ฉะนั้น

    ข้าแต่ท่านกัจจานะ ข้าพเจ้านี้ขอถึงพระโคดมผู้เจริญพระองค์นั้นกับทั้ง พระธรรม และพระภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ ขอท่านพระกัจจานะจงจำข้าพเจ้าว่า เป็นอุบาสก ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฯ

    ดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าเรื่องการขัดเกลากิเลสเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก ถ้าไม่ทราบถึงเหตุผลตามความเป็นจริงว่า สิ่งที่ควรเคารพอย่างสูงสุดนั้นคือพระรัตนตรัย ก็อาจจะทำให้บุคคลผู้นั้นยังเคลือบแคลงสงสัยในพระผู้มีพระภาค ในพระธรรม และในพระสงฆ์ได้


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 786


    หมายเลข 13144
    29 ก.ย. 2567