อานิสงส์ ๒ ประการ ในขณะที่เราบริจาคทาน


    ถ. ในขณะที่เรากำลังบริจาคทานนั้น มีตัวตน แต่ถ้าในขณะที่เราบริจาคทาน เราระลึกรู้ถึงลักษณะของนาม และรูป จะได้กุศลทั้ง ๒ ชนิด หรือว่าจะอยู่ในประเภทสติปัฏฐานเท่านั้น เพราะในขณะนั้นเป็นนาม และเป็นรูป

    สุ . ต้องได้กุศลทั้ง ๒ ประการแน่ ท่านที่ให้ทานโดยไม่เจริญสติปัฏฐาน ท่านก็ได้อานิสงส์ของทานที่เป็นกุศลนั้นเท่านั้น แต่ว่าท่านที่ให้ทาน และเจริญสติปัฏฐาน ระลึกรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรมในขณะนั้น ท่านละคลายการยึดถือนามธรรม และรูปธรรมว่าเป็นตัวตน เพราะฉะนั้น ท่านก็มีโอกาสที่จะรู้แจ้งสภาพธรรมตามความเป็นจริง

    ไม่เหมือนท่านที่ให้ทาน แต่สติไม่ได้ระลึกรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรม ถึงแม้ว่าท่านจะได้อานิสงส์ของทาน ได้โภคสมบัติ ได้ทรัพย์สมบัติ ท่านก็จะต้องวนเวียนไปในวัฏฏะเรื่อยไป แล้วแต่ว่าเป็นผลของกรรมอะไร ในโอกาสไหน ท่านก็รับผลของกรรมนั้น ในขณะนั้น เพราะเหตุว่าทุกชีวิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์ก็เป็นผลของกุศลกรรม ซึ่งชีวิตแต่ละวันที่ปรากฏก็แสดงให้เห็นถึงการรับผลของอกุศลกรรม อุบัติเหตุต่างๆ การประทุษร้ายเบียดเบียนกันต่างๆ เพราะฉะนั้น ท่านผู้ใดที่ให้ทานด้วย และเจริญสติปัฏฐานด้วย ท่านก็ได้อานิสงส์ ๒ ประการ


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 192


    หมายเลข 13152
    1 ต.ค. 2567