ใบฎีกา บอกให้ทำทาน คล้ายๆ กับถูกบังคับมากกว่า
ถ. พระก็มี ฆราวาสก็มี มีใบฎีกา บอกให้ทำทานอย่างโน้น ให้ทำทานอย่างนี้ บางคนเขารำคาญ เขาก็ให้ทานไป บางคนก็บอกว่า นิมนต์ไปข้างหน้าก่อน ยังไม่ศรัทธา การทำทานอย่างนี้คล้ายๆ กับถูกบังคับมากกว่า ขอความกรุณาอาจารย์ จะทำอย่างไรดี
สุ . ถ้าท่านเห็นว่า เป็นเรื่องที่สมควรแก่การที่จะให้ ก็ให้ ไม่สมควรที่จะให้ก็ไม่ให้ เพราะว่ากุศลจิตไม่เกิด และที่ไม่ให้ เพราะจะให้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์กว่าก็ได้ หรือถ้าคิดว่าจะให้ ก็ให้โดยดี
ขณะที่ไม่ให้ เป็นตัวท่านหรือเปล่า ขณะที่จะให้ ก็ไม่ใช่ตัวตน ขณะที่ไม่ให้ก็ไม่ใช่ตัวตน สติจะต้องระลึกรู้ว่า เป็นแต่เพียงนามธรรมชนิดหนึ่ง ขณะนั้นเกิดแล้ว ไม่ให้ผ่านไปแล้ว เป็นอย่างนั้นแล้ว ก็แล้วไป สติก็ระลึกรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรมที่กำลังปรากฏต่อไป
แต่ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา บังคับไม่ได้ รู้ทุกอย่างเลย อกุศลมีอะไรบ้าง โลภะ โทสะ โมหะ อิสสา มัจฉริยะ ล้วนแต่เป็นอกุศลที่ไม่ดีทั้งนั้น รู้ทั้งรู้ แต่ว่าเมื่อมีเหตุปัจจัยก็เกิดได้ แล้วก็เกิดอย่างรวดเร็วเหลือเกิน ก่อนที่ทันจะระลึกได้ ความไม่พอใจก็เกิดแล้ว หรือความไม่เต็มใจก็เกิดแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าได้เจริญสติ ระลึกรู้ความละเอียดของจิตในขณะนั้น แม้ขณะนั้นก็เป็นอนัตตา ความไม่พอใจก็เป็นนามธรรมชนิดหนึ่ง ความไม่เต็มใจก็เป็นนามธรรมชนิดหนึ่ง ท่านที่เจริญสติปัฏฐานเป็นปกติ ย่อมสามารถที่จะรู้สภาพของนาม และรูปได้
ที่มา ...