คิลานสูตร คนไข้ ๓ จำพวกมีปรากฏอยู่ในโลก


    อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต คิลานสูตร

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย คนไข้ ๓ จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก ๓ จำพวกเป็นไฉน คือ

    ประเภทที่ ๑ คนไข้บางคนในโลกนี้ ได้โภชนะที่สบาย หรือไม่ได้ก็ตาม ได้เภสัชที่สบาย หรือไม่ได้ก็ตาม ได้อุปัฏฐากที่สมควร หรือไม่ได้ก็ตาม ย่อมไม่หายจากอาพาธนั้นได้เลย

    ประเภทที่ ๒ คนไข้บางคนในโลกนี้ ได้โภชนะที่สบาย หรือไม่ได้ก็ตาม ได้เภสัชที่สบาย หรือไม่ได้ก็ตาม ได้อุปัฏฐากที่สมควร หรือไม่ได้ก็ตาม ย่อมหายจากอาพาธนั้นได้

    ประเภทที่ ๓ คนไข้บางคนในโลกนี้ ได้โภชนะที่สบาย จึงหายจากอาพาธนั้น เมื่อไม่ได้ย่อมไม่หาย ได้เภสัชที่สบายจึงหายจากอาพาธนั้น เมื่อไม่ได้ ย่อมไม่หาย ได้อุปัฏฐากที่สมควร จึงหายจากอาพาธนั้น เมื่อไม่ได้ย่อมไม่หาย

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บรรดาคนไข้ ๓ จำพวกนี้ เพราะอาศัยคนไข้ผู้ที่ได้โภชนะที่สบาย ได้เภสัชที่สบาย ได้อุปัฏฐากที่สมควร จึงหายจากอาพาธนั้น เมื่อไม่ได้ ย่อมไม่หาย นี้เราจึงอนุญาตคิลานภัตร อนุญาตคิลานเภสัช อนุญาตคิลานุปัฏฐากไว้

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย และก็เพราะอาศัยคนไข้เช่นนี้ ถึงคนไข้อื่นก็ควรได้รับการบำรุง ดูกร ภิกษุทั้งหลายคนไข้ ๓ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก

    นี่เป็นเหตุที่ทรงอนุญาตคิลานภัตร คิลานเภสัช คิลานุปัฏฐาก เพราะเหตุว่าถ้าไม่ทรงอนุญาตไว้ ก็จะไม่หายจากอาพาธ ข้อความต่อไปมีว่า

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน บุคคลซึ่งเปรียบด้วยคนไข้ ๓ จำพวกนั้นมีปรากฏอยู่ในโลก บุคคลผู้เปรียบด้วยคนไข้ ๓ จำพวกนั้น เป็นไฉน

    ประเภทที่ ๑ บุคคลบางคนในโลกนี้ ได้เห็นพระตถาคต หรือไม่ได้เห็นก็ตาม ได้ฟังธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว หรือไม่ได้ฟังก็ตาม ย่อมไม่หยั่งลงสู่ความ เห็นชอบในกุศลธรรม คือ จตุรมรรคได้เลย

    ประเภทที่ ๒ บุคคลบางคนในโลกนี้ ได้เห็นพระตถาคต หรือไม่ได้เห็นก็ตาม ได้ฟังธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว หรือไม่ได้ฟังก็ตาม ย่อมหยั่งลงสู่ความเห็นชอบในกุศลธรรม คือ จตุรมรรค

    ประเภทที่ ๓ บุคคลบางคนในโลกนี้ ได้เห็นพระตถาคต จึงหยั่งลงสู่ความเห็นชอบในกุศลธรรม คือ จตุรมรรคได้ เมื่อไม่ได้เห็น ย่อมไม่หยั่งลงสู่ความเห็นชอบ ได้ฟังธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว จึงหยั่งลงสู่ความเห็นชอบในกุศลธรรม คือ จตุรมรรคได้ เมื่อไม่ได้ฟัง ย่อมไม่หยั่งลงสู่ความเห็นชอบ

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนั้น เพราะอาศัยบุคคลที่ได้เห็นพระตถาคต จึงหยั่งลงสู่ความเห็นชอบในกุศลธรรม คือ จตุรมรรค เมื่อไม่ได้เห็น ย่อมไม่ได้หยั่งลงสู่ความเห็นชอบ ได้ฟังธรรมวินัยที่พระตถาคตทรงประกาศแล้ว จึงหยั่งลงสู่ความเห็นชอบในกุศลธรรม คือ จตุรมรรค เมื่อไม่ได้ฟัง ย่อมไม่หยั่งลงสู่ความเห็นชอบ นี้แล เราจึงอนุญาตการแสดงธรรมไว้

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย และก็เพราะอาศัยบุคคลนี้ จึงควรแสดงธรรม แม้แก่บุคคลอื่นๆ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลซึ่งเปรียบด้วยคนไข้ ๓ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในอยู่โลก

    พอจะทราบได้ไหมว่า สำหรับท่านเองเป็นคนไข้ประเภทไหน ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมวินัยเลย จะหยั่งลงสู่ความเห็นชอบได้ไหม หรือเพราะอาศัยการได้ฟังพระธรรมวินัยจึงได้หยั่งลงสู่ความเห็นชอบ เพราะมีบุคคลประเภทนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงอนุญาตการแสดงธรรม และถึงแม้บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่บุคคลนี้ ก็ควรที่จะได้รับฟังการแสดงธรรมด้วย เพราะเหตุว่าเป็นประโยชน์แม้กับบุคคลอื่น เช่นเดียวกับคนไข้ที่บางคน ถึงจะไม่ได้ยาที่สมควร ไม่ได้ผู้อุปัฏฐากที่สมควรก็หาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรที่จะได้ยาที่สมควรด้วย ได้ผู้อุปัฏฐากที่สมควรด้วย ไม่ใช่ว่าได้หรือไม่ได้ก็หาย ก็เลยไม่ต้องอุปัฏฐาก ก็เลยไม่ต้องอนุเคราะห์


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 63


    หมายเลข 13388
    7 เม.ย. 2568