เชตวนสูตร เทวดาสรรเสริญพระวิหารเชตวัน


    ใน สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เชตวนสูตรที่ ๘

    เทวดากราบทูลว่า ก็พระเชตวันมหาวิหารนี้อันหมู่แห่งท่านผู้แสวงหาคุณ อยู่อาศัยแล้ว อันพระพุทธเจ้าผู้เป็นพระธรรมราชาประทับแล้ว เป็นแหล่งที่เกิดปิติของข้าพระองค์ การงาน ๑ วิชชา ๑ ธรรมะ ๑ ศีล ๑ ชีวิตอย่างสูง ๑ สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ด้วยคุณธรรม ๕ ประการนี้ หาบริสุทธิ์ด้วยโคตรหรือด้วยทรัพย์ไม่ เพราะเหตุนั้นแหละ คนผู้ฉลาด เมื่อเห็นประโยชน์ของตนควรเลือกเฟ้นธรรมโดยอุบายอันแยบคาย เพราะเมื่อเลือกเฟ้นเช่นนี้ย่อมหมดจดได้ในธรรมเหล่านั้น เทวดาสรรเสริญพระวิหารเชตวันเพราะเหตุว่า ณ วิหารเชตวันนั้น เป็นแหล่งที่เกิดปิติของเทวดา เพราะการงาน ๑ ไม่ใช่พระภิกษุทั้งหลายท่านไม่มีการงาน การเย็บจีวร มีไหม? การทำกิจทุกๆ อย่างในพระวินัย มีไหม? มีแต่เป็นงานที่น่าสรรเสริญ เป็นการเลี้ยงชีวิตชอบ เป็นการแสวงหาปัจจัยโดยชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย หรือเรื่องจีวร อาหารบิณบาตต่างๆ แต่ว่าข้อสุดท้ายก็ยังได้กล่าวว่า

    เพราะเหตุนั้นแหละ คนผู้ฉลาดเมื่อเห็นประโยชน์ของตน ควรเลือกเฟ้นธรรมโดยอุบายอันแยบคาย เพราะเมื่อเลือกเฟ้นเช่นนี้ ย่อมหมดจดได้ในธรรมเหล่านั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็ให้ฟังแล้วให้เชื่อ แต่ต้องมีเหตุผลด้วย พิจารณาธรรมด้วย เลือกเฟ้นเหตุผลด้วยความแยบคาย ผลต้องตรงกับเหตุ ไม่ใช่ว่าผลต้องการอย่างนี้ แล้วเจริญเหตุอีกอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วไม่มีหนทางเลยที่จะได้ผลที่ต้องการ ถ้าต้องการละคลายกิเลส ละคลายความไม่รู้ ละคลายความเห็นผิด ละคลายความสงสัยในนามรูปที่กำลังมีอยู่ ปัญญาที่จะละคลายความสงสัย จะละคลายเมื่อไร จะละคลายเพราะรู้แจ้งลักษณะของกำลังเห็น กำลังได้ยิน กำลังได้กลิ่น กำลังรู้รส กำลังนึกคิด หรือว่าไม่ใช่เดี๋ยวนี้

    นี่เป็นสิ่งที่จะต้องคิด เดี๋ยวนี้มีความสงสัย เดี๋ยวนี้มีความไม่รู้ เดี๋ยวนี้มีความเห็นผิด จะหมดได้ก็เมื่อเดี๋ยวนี้รู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ ไม่คอยแล้ว ก็ไม่เลือก เพราะว่าเห็นผิดในสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ สงสัยในสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ไม่รู้ในสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ อย่างนี้แล้วเหตุและผลจะตรงกันไหม?


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 18


    หมายเลข 13415
    9 เม.ย. 2568