สุเมธดาบสคิดจะเป็นพระพุทธเจ้าเพื่อยังประชุมชนให้ข้ามพ้น


    ในสมัยนั้น เราครองผ้าคากรองออกจากอาศรมของตนเหาะไปในท้องฟ้า ในกาลนั้น ได้เห็นชนเกิดความร่าเริงบันเทิงใจ แล้วลงจากท้องฟ้า จึงถามพวกมนุษย์ในขณะนั้นว่า มหาชนผู้เกิดความร่าเริงบันเทิงใจย่อมแผ้วถางทางเป็นที่มาเพื่อใคร พวกเขาถูกเราถามแล้วจึงตอบว่า พระชินเจ้าทรงพระนามทีปังกร เป็นพระพุทธเจ้าไม่มีใครจะเทียบถึง ทรงเป็นนายกของโลก เสด็จอุบัติมาในโลก มหาชนย่อมแผ้วถางทางเป็นที่เสด็จมาเพื่อพระองค์

    เพราะได้ฟังชื่อว่า พุทโธ ก็เกิดปีติในทันทีทันใด เรากล่าวอยู่ว่า พุทโธ พุทโธ ได้เสวยโสมนัสแล้ว เราทั้งๆ ที่ยินดียืนอยู่ ณ ที่นั้นก็สลดจิตคิดว่า เราจักปลูกพืชทั้งหลายไว้ในที่นี้ กาลเวลาอย่าได้ล่วงเลยไปเสีย ถ้าหากพวกท่านแผ้วถางทางเพื่อพระพุทธเจ้า ก็จงให้ทางส่วนหนึ่งแก่เราเถิด เพื่อเราก็จักแผ้วถางทางเป็นที่เสด็จดำเนินมา พวกเขาได้ให้ทางส่วนหนึ่งแก่เรา เพื่อจะแผ้วถางทางในกาลนั้น เราคิดว่า พุทโธ พุทโธ พลางแผ้วถางทางในกาลนั้น

    เมื่อทางบางส่วนของเรายังไม่สำเร็จ พระชินเจ้าผู้มหามุนีทรงพระนามว่า ทีปังกรพร้อมด้วยพระขีณาสพผู้ทรงคุณจำนวนใหญ่ ก็เสด็จดำเนินมาตามหนทางนั้นส่วนเราสยายผมออก แล้วเปลื้องผ้าคากรอง แล้วลาดหนังเสือไว้บนเปือกตมนั้น แล้วนอนคว่ำอยู่ด้วยคิดว่า พระพุทธเจ้าจงทรงเหยียบเราเสด็จไปพร้อมทั้งหมู่สาวก อย่าได้เหยียบเปือกตมเลย พระองค์จักอำนวยประโยชน์เกื้อกูลแก่เรา

    เรานอนบนแผ่นดิน ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า

    วันนี้เมื่อเราปรารถนาก็จักฆ่าเหล่ากิเลสได้ การกระทำธรรมให้แจ้งด้วยเพศที่คนเขาไม่รู้จักในที่นี้จะมีประโยชน์อะไรแก่เราเล่า เราจักบรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว จักเป็นพระพุทธเจ้าในมนุษยโลกพร้อมทั้งเทวโลก

    ความเป็นบุรุษผู้แสดงความสามารถข้ามพ้นได้คนเดียวจักมีประโยชน์อะไรแก่เราเล่า เราบรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว จักยังมนุษยโลกพร้อมทั้งเทวโลกให้ข้ามพ้น

    ความเป็นบุรุษผู้มีบุญญาธิการซึ่งแสดงความสามารถข้ามพ้นได้คนเดียวนี้จักมีประโยชน์อะไรแก่เราเล่า เราบรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว จักยังประชุมชนเป็นอันมากให้ข้ามพ้น เราจักตัดกระแสแห่งสังสาระจักร กำจัดภพทั้ง ๓ แล้วขึ้นธรรมนาวาให้พวกมนุษย์ และเทวดาข้ามพ้น


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 735


    หมายเลข 2222
    4 ก.ย. 2567