ธรรมเป็นเรื่องละเอียดและยากมาก


    ท่านอาจารย์ ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียด และยากมาก ผู้ที่ได้ศึกษาวิชาต่างๆ พอมาถึงวิชาทางธรรม ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีอะไรที่จะยากเท่ากับธรรม เพราะเหตุว่าต้องยากอย่างนี้ เพราะเป็นพระธรรมที่ทรงแสดงโดยพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงตรัสรู้สภาพธรรมที่เป็นความจริง เราได้พูดถึงเรื่องปรมัตถธรรม ธรรมที่มีจริง

    ขั้นฟังทุกคนยอมรับ แต่ทางตาที่เห็นขณะนี้ก็ยังเป็นคนนั้นคนนี้อยู่ตลอดเวลา นี่ก็จริง จะเปลี่ยนเพียงว่าให้ฟังครั้งเดียว ต่อจากนั้นก็รู้เลยว่า ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคลในสิ่งที่ปรากฏ นอกจากคิดเอาเอง คิดต่างๆ นาๆ จากสิ่งที่ปรากฏ ถ้าลองหลับตาแล้วมีอะไรปรากฏ หรือว่าไม่มีอะไรเลย ตรงตามความเป็นจริง ธรรมตรง ตอบได้เลยหลับตาแล้วมีอะไรปรากฏ หรือว่าไม่มีเลย

    ผู้ฟัง ก็มีสีดำ

    ท่านอาจารย์ มีสีดำ แล้วก็มีอะไรอีก หรือเปล่า คนหายไปหมดเลยใช่ไหม ห้องนี้ก็หายไปหมด เป็นสัจจธรรมความจริง หรือเปล่า หรือว่าหลอกให้หลับตา

    ผู้ฟัง ไม่ได้หลอก หลับทีไรก็ดำทุกที

    ท่านอาจารย์ แต่จะหลับตาที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง สิ่งที่ปรากฏในขณะนี้ไม่ปรากฏ เพราะฉะนั้นเราเริ่มรู้จริงๆ ว่า ถ้าเพียงไม่มีจักขุปสาทคือตา โลกเป็นอย่างนั้น ผู้ที่ไม่มีจักขุปสาททั้งหลาย คนที่ตาบอด โลกเป็นอย่างนั้นจริงๆ คือทางตามืด ไม่มีอะไรปรากฏเลย ไม่เห็นสีสันวรรณะต่างๆ จะมีโลกอื่นซึ่งขณะที่เราหลับตา สีไม่ปรากฏ จะมีโลกอื่นไหม มีอะไรอีกไหม

    ผู้ฟัง มีโลกแห่งความคิด

    ท่านอาจารย์ ถ้าเสียงไม่ปรากฏ ถ้าเย็น หรือร้อน อ่อน หรือแข็งไม่ปรากฏ กลิ่นไม่ปรากฏ รสไม่ปรากฏ คิด ไม่มีใครที่จะไม่คิดเลย หรือบางคนคิดก็ยังไม่รู้เลยว่าคิด ถ้าถามใครเดี๋ยวนี้ทันทีว่าคิดอะไร ตอบได้ทันทีไหมว่าคิดอะไร

    ผู้ฟัง ไม่ได้ครับ

    ท่านอาจารย์ ตอบไม่ได้ทั้งๆ ที่คิด คิดก็ยังตอบไม่ได้ว่าคิดอะไร

    ผู้ฟัง มันหลายๆ เรื่องก็เลยตอบไม่ทัน

    ท่านอาจารย์ สักเรื่องหนึ่งก็ตอบไม่ถูกว่าจะเอาเรื่องไหน เพราะว่าความคิดเกิดแล้วก็ดับด้วย ความคิดไม่ปรากฏเป็นแสงสว่าง หรือสีสันใดๆ เลยทั้งสิ้น แต่ความคิดก็มี เพราะฉะนั้น เราเริ่มรู้จักสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมตัวจริงๆ ว่าทุกคนมี อย่างหนึ่งก็คือคิดแน่นอน ไม่มีรูปร่าง ไม่มีสัณฐานเลย พอลืมตาขึ้นมา ขณะที่กำลังเห็นเดี๋ยวนี้ คิด หรือเปล่า กำลังเห็น เห็นขณะที่เห็น คิด หรือเปล่า

    ผู้ฟัง เห็นแล้วคิด มันเร็ว ผมว่ามันเร็ว

    ท่านอาจารย์ ไม่เอาเร็ว ไม่เอาช้า เอาความจริง ว่าขณะที่เห็น เพียงเห็น คิด หรือเปล่า ไม่เหมือนเมื่อกี้นี้ที่หลับตา เมื่อกี้นี้หลับตาไม่เห็น แต่คิด แต่พอลืมตามีสิ่งที่คิดที่ต่างจากหลับตาแล้วใช่ไหม

    ผู้ฟัง ใช่

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น จะเห็นได้จริงๆ ขณะที่เห็นเปลี่ยนไปแล้ว จากคิดโดยหลับตา มาเป็นมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดปรากฏให้เห็น นี่คือธรรม คือสิ่งที่มีจริงๆ เป็นปรมัตถธรรม “ปรม” คือ ยิ่ง ใหญ่ ที่สุด อรรถ

    ถ้าลักษณะนี้ไม่เป็นอย่างนี้ก็จะไม่มีคำที่แสดงความหมายจริงๆ ของสิ่งนี้ ว่าแท้ที่จริงแล้วสิ่งที่มีจริงเป็นสิ่งซึ่งใครก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้เลย คนที่มีตาทุกคน หลับตาไม่เห็น แต่พอลืมตา ผิดจากที่เมื่อกี้นี้หลับตาแล้วใช่ไหม เพราะว่ามีสิ่งที่ปรากฏทางตา เพราะฉะนั้น เราจะรู้ได้ว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้รู้อะไรตามความเป็นจริงเลย ตราบใดที่ยังไม่ได้ฟังพระธรรม แต่เมื่อไหร่ที่เริ่มฟังพระธรรม ก็ไม่ใช่ตามตัวหนังสือไปง่ายๆ อย่างที่บอกว่าอะไรเป็นรูปก็รู้ อะไรเป็นนามก็รู้ แค่นั้นไม่พอ ไม่ใช่ความจริง

    ถ้าความจริงก็คือสามารถที่จะเข้าใจ หรือเข้าถึงลักษณะความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ โดยเป็นความเข้าใจของเราเองที่มั่นคง ในลักษณะของสภาพธรรมที่ต่างกันเป็นสองอย่าง คือลักษณะหนึ่งไม่สามารถจะรู้อะไรได้เลยทั้งสิ้น และก็จะปรากฏในชีวิตประจำวันเพียง ๗ ประเภท คือ ปรากฏทางตาเป็นสภาพธรรมมีจริงอย่างหนึ่ง ทางหูเป็นเสียง ทางจมูกเป็นกลิ่น ทางลิ้นเป็นรส ทางกายก็คือเย็น หรือร้อน อ่อน หรือแข็ง ตึง หรือไหว ลองหลับตาอีกทีหนึ่ง

    ผู้ฟัง ผมเคยเห็นคนนอนหลับแต่ว่าตาไม่หลับ

    ท่านอาจารย์ ทีนี้เราจะพูดถึงในห้องนี้เพื่อเราจะได้เข้าใจธรรม แม้ว่าเราจะพูดบ่อยๆ เร็วๆ หลายครั้งเรื่องนามธรรม เรื่องรูปธรรม เรื่องเห็น ได้ยิน พูดไปแต่ไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ ทั้งหมดที่เราเรียนมา เราเรียนแล้วก็ได้ประโยชน์อะไร แต่ถ้าเราสามารถจะเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะที่กำลังฟังด้วย ประกอบกันไป และเมื่อฟังบ่อยๆ มากขึ้น ความเข้าใจของเราก็มั่นคงขึ้น ว่าธรรมคือตรงนี้ สิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏ แต่เราจะค่อยๆ เข้าใจ ตามกำลังของปัญญา ซึ่งจากการที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาเกินแสนโกฐิกัปป์ กับการที่ได้ยินได้ฟัง แล้วค่อยๆ เข้าใจขึ้น ความเข้าใจของเราจะไปเร็วไม่ได้ นอกจากว่าค่อยๆ พิจารณาจนกระทั่งค่อยๆ เข้าใจ


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 6


    หมายเลข 4999
    4 ก.ย. 2567