เข้าใจธรรมคือเข้าใจปรมัตถธรรม


    ท่านอาจารย์ เมื่อกี้มีคิด ตอนนี้มีอะไร

    ผู้ฟัง มีแข็ง

    ท่านอาจารย์ มีแข็ง เห็นไหม แสดงให้เห็นว่า โลกที่เราคิดว่าเป็นโต๊ะแข็ง เก้าอี้แข็ง ความจริงเมื่อไม่เห็นรูปร่าง สัณฐาน สิ่งที่มีจริงคือ ”แข็ง” นี่คือ “ปรมัตถ” เป็นธรรมที่เป็นปรมัตถธรรม เพราะฉะนั้น ถ้ามีคนบอกว่า เข้าใจธรรม รู้จักธรรม แต่ไม่รู้จักปรมัตถธรรม ถูก หรือผิด เพราะว่าถ้าเข้าใจจริงๆ ธรรมนั่นแหล่ะจะเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากจะเป็นปรมัตถธรรม และปรมัตถธรรมที่ดูเสมือนว่าไม่มีอะไรมากมายเลย พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงสามปิฎก และก็อรรถกถายังมีข้อความกล่าวถึง ปรมัตถธรรมนั่นเอง นี่แสดงให้เห็นว่าถ้าไม่รู้ก็คือไม่มีอะไร แต่ถ้ารู้ ทุกอย่างอยู่ตรงนั้น จากไม่มีเลย ไม่ได้ปรากฏเลย แล้วเกิดปรากฏขึ้นได้ยังไง ใครทำ ใครสร้าง ใครรู้ ใครไม่รู้

    ต้องเป็นผู้ที่ตรงว่า เรายังไม่ได้รู้ถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้สภาพธรรมแต่ละอย่างเกิดเรายังไม่ได้รู้ถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้สภาพธรรมแต่ละอย่างเกิดขึ้น แต่เราอาจจะได้ยินได้ฟังคำว่า “อายตนะ” ได้ยินคำว่า “ธาตุ” ได้ยินว่า “อริยสัจ” อย่าง อายตนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ๖ และก็สีที่ปรากฏทางตา เสียง ๑ กลิ่น ๑ รส ๑ โผฏฐัพพะ เป็นอายตนะ เราจำได้บอกชื่อได้ ธัมมารมณ์พวกนี้บอกได้หมด แต่ลักษณะที่กำลังปรากฏขณะที่หลับตา แข็งปรากฏได้ยังไง แต่ถ้าเราเข้าใจ ไม่สงสัยในความหมายของอายตนะ ต้องมีทาง เฉพาะทาง ที่สภาพธรรมแต่ละอย่างจะปรากฏได้ แต่ถ้าไม่มีทาง ปรากฏไม่ได้ ใครจะไปสร้างสรรค์ทำยังไง บังคับยังไงก็ปรากฏไม่ได้

    ผู้ฟัง ในความแข็ง มันมีเย็นมีร้อนอยู่ด้วย

    ท่านอาจารย์ ทีละอย่าง เราไม่เอาสิ่งที่เกิดดับสืบต่ออย่างรวดเร็วมารวมเป็นอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรมที่พิสูจน์ได้ทุกขณะ


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 6


    หมายเลข 5000
    4 ก.ย. 2567