พุทธกิจ - ปุเรภัตกิจ และปัจฉาภัตกิจ
การคบของพระผู้มีพระภาคนั้น ไม่ใช่เพื่อประโยชน์อย่างชาวโลก แต่เพื่อทรงอนุเคราะห์บุคคลนั้นให้รู้แจ้งอริยสัจธรรม และให้เจริญมั่นคงในกุศลยิ่งขึ้น
พระบารมีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญ เพื่อจะได้ถึงความสมบูรณ์ในการที่จะเกื้อกูลสัตว์โลก คือ สัตตูปการสัมปทา เริ่มตั้งแต่ทรงตรัสรู้จนกระทั่งปรินิพพาน ด้วย พระวิริยะอุตสาหะ ด้วยพระมหากรุณาจริงๆ
ถ้าท่านผู้ฟังได้ทราบถึงพุทธกิจประจำวันของพระผู้มีพระภาค ย่อมจะเห็นได้ว่า ไม่ทรงละเลยโอกาสที่จะอนุเคราะห์สัตว์โลกเลย ซึ่งในยุคนี้สมัยนี้ย่อมไม่มีผู้ใดได้เห็นพระผู้มีพระภาค แต่ในอดีต ในครั้งโน้น ก็ไม่ทราบว่าจะมีท่านผู้ฟังท่านใดที่ได้เคยเห็น เคยเฝ้า เคยฟังธรรมจากพระโอษฐ์ของพระผู้มีพระภาค และได้ซาบซึ้งในพุทธกิจที่พระองค์ทรงบำเพ็ญบ้างหรือไม่
ใน ปรมัตถโชติกา อรรถกถา สุตตนิบาต อุรควรรค กสิภารทวาชสูตร มีข้อความที่กล่าวถึงปุเรภัตกิจ และปัจฉาภัตกิจของพระผู้มีพระภาค
สำหรับปุเรภัตกิจ คือ กิจก่อนการเสวยภัต และปัจฉาภัตกิจ คือ กิจหลังจากที่ได้เสวยพระกระยาหารแล้ว ซึ่งหมายความถึงตอนเช้ากับตอนบ่าย ปุเรภัตกิจ หมายความถึงตอนเช้า และปัจฉาภัตกิจ คือ กิจหลังจากที่เสวยพระกระยาหารแล้ว ก็เป็นกิจในตอนบ่าย
ข้อความในอรรถกถามีว่า
ในพระสูตรนั้น จะพึงมีคำถามว่า ปุเรภัตกิจของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นไฉน ปัจฉาภัตกิจของพระพุทธเจ้าเป็นไฉน เฉลยว่า พระพุทธเจ้าเสด็จลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ ทรงกระทำการบริกรรมสรีระ มีการล้างพระพักตร์ เป็นต้น เพื่อจะอนุเคราะห์แก่ อุปัฏฐาก และเพื่อความผาสุกแห่งพระวรกาย ทรงปล่อยเวลาให้ล่วงไปที่เสนาสนะอันสงัดจนกระทั่งถึงเวลาเสด็จบิณฑบาต
ในเวลาเสด็จบิณฑบาต ทรงนุ่งจีวร คือ สบง และทรงคาดประคดเอว ห่มจีวร ทรงถือบาตร
ที่มา ...