จิตคิดเป็นปรมัตถธรรม เรื่องราวเป็นเพียงความทรงจำ


    ผู้ฟัง โลกของความคิดเป็นนาม เรื่องที่คิดเป็นรูป ถูกต้อง หรือไม่

    ท่านอาจารย์ เรื่องที่คิดคืออะไร ขอให้ยกตัวอย่าง

    ผู้ฟัง ดิฉันถูกคุณครูตีแล้วเจ็บ เรื่องนั้นจบไปแล้ว ดิฉันก็เอามาคิดแล้วคิดอีก แล้วก็โกรธคุณครู

    ท่านอาจารย์ ขณะที่คิดเรื่องดิฉันถูกคุณครูตี อยู่ตรงไหน ขณะที่กำลังคิดว่า ดิฉันถูกคุณครูตี คุณครูอยู่ที่ไหน

    ผู้ฟัง ไม่มี จบไปแล้ว

    ท่านอาจารย์ ฉะนั้นไม่ใช่รูป จิตที่คิดพร้อมเจตสิกที่เกิดเป็นนามธรรมเป็นปรมัตถธรรม เรื่องที่คิดเป็นเรื่องราว เป็นคำต่างๆ เป็นรูป หรือเปล่า

    ผู้ฟัง ถ้าเป็นความคิด ก็คงเป็นนาม

    ท่านอาจารย์ เรื่องที่คิดไม่ใช่ทั้งนามธรรม และรูปธรรม ถ้านามที่เกิดก็มีจิต และเจตสิก ที่กำลังคิดเป็นนามธรรม รูปก็มีลักษณะของรูปแต่ละรูป เช่น รูปที่กำลังปรากฏทางตาอย่างหนึ่ง รูปที่กำลังปรากฏทางหูอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้น ขณะที่กำลังคิดว่าถูกครูตี ไม่มีทั้งดิฉัน ไม่มีทั้งไม้เรียว ไม่มีทั้งคุณครูตี เพราะฉะนั้นก็เป็นแต่เพียงความทรงจำ และขณะที่คิดอย่างนั้นเป็นการคิดถึงคำ เพราะว่าความคิดมีหลายอย่าง คิดที่ไม่เป็นคำก็มี เร็วมากด้วย ไม่มีการรู้ตัวเลย ว่าขณะที่กำลังเห็นเป็นอะไร คิดแล้ว เพราะว่าสิ่งนั้นเป็นแต่เพียงสิ่งที่ปรากฏ แต่ทำไมเห็นเป็นคน แสดงว่าขณะที่รู้ หรือคิด เข้าใจว่าเป็นคนขณะนั้น คิดแล้ว ในรูปร่างสัณฐาน และความทรงจำ เพราะฉะนั้น เรื่องของความคิดนั้นมากมาย จิตที่คิดพร้อมเจตสิกที่เกิด เป็นนามธรรม เป็นปรมัตถธรรม แต่เรื่องราวเป็นความทรงจำในสีสันวรรณะ จำได้ว่ามีครู จำไม้เรียวได้ จำได้ว่าถูกครูตี

    ผู้ฟัง เป็นสัญญาใช่ หรือไม่

    ท่านอาจารย์ ถูกต้อง เพราะสัญญาต้องเกิดกับจิตทุกขณะ แต่กำลังจะลำดับให้ฟังว่า อะไรจริง อะไรไม่จริง ซึ่งก็จะต้องเกี่ยวกับสัญญาเจตสิกที่จะศึกษาในครั้งต่อไป แต่ให้ทราบว่า เรื่องราวไม่ใช่รูป และไม่ใช่นาม เพราะว่ารูปแต่ละรูปมีลักษณะของรูปนั้นๆ ว่า รูปนี้มีจริง กำลังปรากฏทางตาเป็นรูปธรรม เสียงมีจริงกำลังปรากฏทางหู เป็นรูปธรรม แต่เรื่องราวไม่มีอะไรที่จะปรากฏ ที่จะเป็นลักษณะของรูป หรือนามธรรมเลย

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 14


    หมายเลข 5247
    16 ม.ค. 2567