จิตเกิดตามกำลังของจิต ไม่ต้องคำนึงถึงความห่าง
ผู้ฟัง จิตเกิดในกายเรา ระหว่างตาสองตากับไปพรหมโลก เวลานั้นเท่ากันเป็นอนันตรปัจจัย
ท่านอาจารย์ จิตมีปัจจัยที่จะเกิดตามกำลังของจิต ถ้าเป็นอกุศลกรรมหนัก มีกำลังถึงกับเกิดที่อเวจีมหานรก ไม่ต้องมีใครพาไปเลย แต่เพราะกำลังของเจตนานั้นเอง ซึ่งเป็นกรรมทำให้สภาพของจิตซึ่งเป็นวิบากเกิดที่นั่น ไม่ใช่หมายความว่ามีใครจะต้องพาจิตไป
ผู้ฟัง จิตดวงใหม่ไปเกิดที่นั่น
ท่านอาจารย์ ด้วยกำลังของกรรม ไม่มีกำลังใดที่จะเสมอเท่ากับกำลังของกรรม จะเกิดในพรหมโลกเป็นอรูปพรหม หรือเกิดในอเวจีมหานรก ก็ด้วยกำลังของกรรม
ผู้ฟัง จุติที่นี่ แล้วไปปฏิสนธิ ไกลแสนไกล เวลาเท่ากัน
ท่านอาจารย์ เคยกล่าวถึงแล้ว เรื่องจิตเห็น เกิดที่จักขุปสาทกลางตา ร่างกายทั้งหมดสามารถเป็นที่เกิดของจิตได้ แล้วแต่ว่าเป็นจิตประเภทใด จิตบางประเภทก็เกิดที่จักขุปสาท เช่น จิตเห็นต้องเกิดที่จักขุปสาท จิตได้ยินต้องเกิดที่โสตปสาท ตากับหูห่างกันไหม ลองคิดดู
ผู้ฟัง ไม่ห่าง
ท่านอาจารย์ ไม่ห่าง ติดกัน หรือ
ผู้ฟัง เราเห็นว่ามันไม่ห่าง
ท่านอาจารย์ มีอากาศธาตุแทรกคั่น ไม่ต้องไปนับว่าประมาณเท่าไหร่ แต่เมื่อมีปัจจัยของจิตเห็นจะเกิด จิตเห็นก็เกิดเห็น มีปัจจัยของจิตได้ยินจะเกิดได้ยิน จิตก็เกิดได้ยิน ไม่ต้องไปคำนึงว่าความห่างนั้นจะแค่ไหน จิตเกิดแล้วก็ดับแล้วก็เกิดสืบต่อ เพราะฉะนั้นสืบต่อสะสมสิ่งที่ผ่านมาแล้วทั้งหมด ทำให้เรามีอัธยาศัยต่างกัน มีความสามารถต่างกัน มีความคิดต่างกัน มีกุศลจิต อกุศลจิตต่างกัน
ที่มา ...