จุดสูงสุดของการฟังพระธรรมเรื่องของจิต
ถ้าจะกล่าวถึงเรื่องจิตบ่อยๆ ก็คงไม่เบื่อ เพราะว่าจริงๆ แล้วถึงจะมีจิตอยู่ตลอดวัน ตลอดคืน ตลอดชีวิต แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราสามารถที่จะระลึกถึงจิต และก็เข้าใจจิตที่มีอยู่ได้บ่อยๆ เป็นเรื่องที่เราจะต้องฟังซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะเหตุว่า ถ้าเรายิ่งเข้าใจจิตเท่าไหร่ ก็จะทำให้เราไม่ลืมที่จะเข้าใจว่าขณะนี้เองที่กำลังเห็นเป็นจิต
เพราะฉะนั้นจุดสูงสุดของการฟังพระธรรม ไม่ใช่ให้จำเรื่องราว แต่ให้เข้าใจจริงๆ จนกระทั่งสามารถที่จะรู้ว่าไม่ใช่เราที่กำลังเห็น ไม่ใช่เราที่กำลังได้ยิน ไม่ใช่เราที่กำลังคิดนึก ทุกสิ่งทุกประการตลอดชีวิต เช่น จิตเป็นสภาพที่รู้แจ้งอารมณ์ หรือว่าวิจิตรด้วยอารมณ์ ก็เพราะเหตุว่าขณะนี้เองจะไม่รู้เลยว่าทางตาเป็นสภาพธรรมที่วิจิตรเพราะรู้อารมณ์ที่ต่างๆ กัน เราไม่ได้รู้อย่างเดียวใช่ หรือไม่ หรือเสียงที่ได้ยินในขณะนี้ก็มีต่างๆ กันไป เพราะว่าจิตเป็นสภาพที่วิจิตรด้วยอารมณ์ เพราะรู้แจ้งอารมณ์ และเพราะการเกิดดับสืบต่อ ก็เป็นปัจจัยที่กรรม กิเลส สั่งสมวิบาก ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับชาติซึ่งเราได้กล่าวถึงในคราวก่อน ว่า จิตมี ๔ ชาติคือ กุศล๑ อกุศล๑ เป็นเหตุ วิบากเป็นผล และ กิริยาซึ่งไม่ใช่กุศล อกุศล และไม่ใช่วิบาก เพราะฉะนั้นการสั่งสมของจิตจาก ๑ ขณะไปอีก ๑ ขณะ ก็จะเห็นได้ว่าไปสั่งสมจิตของคนอื่นไม่ได้เลย ต้องเป็นการสั่งสมของจิตที่ได้เห็นบ้าง ได้ยินบ้าง เมื่อถึงกาลที่จะสั่งสมเป็นกุศล หรือเป็นอกุศล ก็ไม่หายไปไหนเลย ทำให้กุศลแต่ละขณะที่เกิด หรืออกุศลแต่ละขณะก็สะสมเป็นอุปนิสัยที่ทำให้แต่ละคนต่างกันไปตามการสะสม
ที่มา ...