ขณะที่เป็นภวังคจิตก็ต้องมีการรู้อารมณ์ด้วย


    ผู้ฟัง ถ้าอารมณ์ปรากฏต้องไม่ใช่ขณะหลับ แต่จิตทุกดวงต้องมีอารมณ์ เพราะฉะนั้นขณะที่เป็นภวังค์ก็ต้องมีอารมณ์ด้วย

    ท่านอาจารย์ ถูกต้อง คือคำหนึ่งคำใดที่ได้ฟังแล้วเข้าใจแล้วทิ้งไม่ได้ ลืมไม่ได้ เพราะเหตุว่าเป็นสัจจธรรม เป็นความจริงที่ต้องเข้าใจให้ตรง จิตเป็นสภาพรู้ เป็นธาตุรู้ เพราะฉะนั้นจะมีจิตเกิดโดยไม่รู้ไม่ได้ และสิ่งที่จิตรู้ ใช้คำว่า "อารัมมณะ" หรือ"อารมณ์" ในภาษาไทย หรือใช้คำว่า "อาลมฺพน" ก็ได้ เป็นความหมายอย่างเดียวกัน เป็นที่มายินดีของจิต เพราะจิตจะต้องรู้อารมณ์นั้นแน่นอน ไม่รู้อารมณ์นั้นไม่ได้ เพราะฉะนั้น ขณะที่จิตเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ทำหน้าที่อะไรก็ตามต้องรู้อารมณ์ แต่จะใช้คำว่าหลับ หรือไม่หลับก็ตามแต่ นี่เป็นคำที่เราใช้ แต่ถ้าพูดถึงลักษณะ และกิจหน้าที่ของจิต ก็จะรู้ว่าขณะนั้นจิตเป็นชาติอะไร และก็ทำกิจอะไร เพราะว่าเรากำลังเรียนเรื่องของชาติของจิต ซึ่งขณะนี้เราจะได้ทราบว่า เรื่องของจิตมี ๔ ชาติ เริ่มตั้งแต่ปฏิสนธิจิตเป็นชาติอะไร

    ผู้ฟัง วิบาก

    ท่านอาจารย์ ปฏิสนธิจิตเป็นชาติวิบาก อาศัยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ รู้อารมณ์อะไรในขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดใช่ หรือไม่ ไม่ เพราะฉะนั้นเป็นจิตที่ไม่ใช่วิถีจิต เวลาที่ปฏิสนธิจิตดับไปแล้ว มีจิตเกิดสืบต่อเพราะเหตุว่าอาการปรากฏของจิตก็คือการเกิดดับสืบต่อ ขณะนี้ไม่ได้ขาดจิตเลยสักขณะเดียว ทำให้สามารถที่จะเข้าใจได้ว่ามีจิต ไม่มีช่วงว่างที่จิตหายไป แต่ว่ามีการเกิดดับสืบต่อทำให้ปรากฏ สามารถจะรู้ได้ว่าจิตแต่ละขณะแม้ว่าดับไปแล้วก็เกิดสืบต่อ เช่น จิตเห็น ดับไปแล้วก็มีจิตได้ยิน หรือดับไปแล้วก็มีจิตคิดนึก เกิดดับสืบต่อตลอดเวลา

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 23


    หมายเลข 5558
    24 ม.ค. 2567