ปฏิสนธิจิต ภวังคจิต จุติจิต เปลี่ยนอารมณ์ไม่ได้เลย
ผู้ฟัง ภวังคุปัจเฉทะเท่านั้นที่มีทางมโนทวาร
ท่านอาจารย์ ที่เป็นมโนทวาร เป็นตัวมโนทวาร
ผู้ฟัง ทางใจที่จะรู้ได้
ท่านอาจารย์ สำหรับทางมโนทวาร ถ้าเป็นทางปัญจทวารไม่ใช่ทวาร
ผู้ฟัง ซึ่งหายไปสองภวังค์ ภวังค์แรกก่อนที่จะถึงภวังคุปัจเฉทะก็ภวังคจลนะ และก็อตีตภวังค์ หายไปเฉยๆ
ท่านอาจารย์ ไม่หาย หมายความว่าภวังค์นับไม่ถ้วน นับไม่ได้ ไม่มีใครนับ กำลังเป็นภวังค์ใครจะไปนับถูกว่าเท่าไหร่ เพราะว่าเป็นภวังค์อยู่
ผู้ฟัง ภวังค์ที่ท่านอาจารย์กล่าวช่วงต้นๆ ว่า ไม่รู้อะไร ที่ว่าอดีตภวังค์ทำไมรู้อารมณ์
ท่านอาจารย์ ไม่รู้ ไม่รู้เลย ถ้าชื่อว่าเป็นภวังค์แล้วต้องมีอารมณ์เดียวกับปฏิสนธิ ไม่ใช่รู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะฉะนั้น แม้อารมณ์กระทบอตีตภวังค์ อตีตภวังค์ไม่ได้รู้อารมณ์ที่กระทบนั้นเลย ยังคงมีอารมณ์เดียวกับปฏิสนธิ และภวังค์อื่นๆ ทั้งสามคือ ปฏิสนธิ ภวังค์ จุติ เปลี่ยนอารมณ์ไม่ได้เลย
ผู้ฟัง แต่ว่าพระพุทธองค์ท่านตรัสรู้ว่าตรงนี้มีลักษณะของอตีตภวังค์เกิดขึ้นแล้วก็เป็นขั้นตอนไปว่า ภวังคจลนะ ภวังคุปัจเฉทะ
ท่านอาจารย์ เป็นภวังค์ ไม่รู้อารมณ์ใหม่เลย จะรู้เมื่อเป็นวิถีจิต ถ้าจิตที่ไม่ใช่วิถีคือปฏิสนธิ ภวังค์ จุติ จะไม่รู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แต่รู้อารมณ์ที่สืบต่อมาตั้งแต่ปฏิสนธิ
ที่มา ...