ทำไมเราจึงทำให้ธรรมใดเกิดก่อนหรือหลังกันไม่ได้
ผู้ฟัง สมมติตอนนี้มีทั้งเสียง และรูปเห็นตลอดเวลา ซึ่งอาจารย์บอกว่าเร็วมาก เราไม่สามารถที่จะไปอยากเห็นอย่างเดียวก่อน หรือว่าอยากจะได้ยินก่อน ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ครับ
อ.วิชัย คือโดยสภาพของธรรมแล้ว เกิดตามเหตุปัจจัย มีเหตุจะทำให้ธรรมนั้นเกิดขึ้น อย่างเช่นเรื่องของการเห็น ก็จะมีเหตุเรียกว่าอุปัติเหตุหรือว่าเหตุให้เกิดของการเห็นเพราะเหตุว่ามีเหตุปัจจัยหลายอย่าง เช่นการเห็นจะเกิดขึ้นมาขณะหนึ่ง ต้องมีสิ่งที่ปรากฏทางตาแน่นอน หรือว่าเรียกว่าเป็นวัณณะสีสันต่างๆ คือต้องมี ประการที่สองคือต้องมีปสาทด้วย ปสาทก็คือจักขุปสาทที่เกิดจากกรรมที่ยังมีอยู่ที่ยังไม่ดับ เมื่อมี ๒ อย่าง มีปสาทซึ่งมีความพิเศษที่สามารถรับกระทบกับวัณณะรูปหรือสีได้ เมื่อมีจักขุปสาท มีสีมากระทบกับจักขุปสาท เมื่อมีปัจจัยอย่างนี้แล้วก็เป็นปัจจัยให้มีนามธรรมเกิดขึ้น เรียกว่าปัญจทวาราวัชชนจิต แต่เดิมก็เป็นภวังค์เป็นจิตที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่ต้องอาศัยทวารใดทวารหนึ่งเลย
แต่เมื่อมีปสาท คือมีจักขุปสาทที่เป็นทวาร มีรูป มีสีสันวรรณะต่างๆ มากระทบเป็นปัจจัยให้เกิดจิตที่รำพึงนึกถึงอารมณ์ที่มากระทบทางนั้น เมื่อดับไปแล้วเป็นปัจจัยให้เกิดการเห็น อันนี้คือปัจจัยของการเห็น ทางหูก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีเสียง มีโสตปสาท มีการกระทบกัน ก็เป็นปัจจัยให้จิตเกิดขึ้นรำพึงนึกถึงเสียงที่มากระทบดับไปแล้วจิตได้ยินก็เกิดขึ้น ฉะนั้น การเกิดขึ้นของการเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องกระทบสัมผัสก็เกิดขึ้นตามปัจจัย แล้วแต่ว่าจะมีรูปใดมากระทบก็เป็นปัจจัยให้เกิดการรู้รูปที่มากระทบหรือไม่ อย่างเช่นขณะที่เราหลับสนิทไม่รู้อะไรเลยในโลกนี้อาจจะมีเสียงต่างๆ มีโผฏฐัพพะต่างๆ มีสีสันต่างๆ แต่ว่าขณะนั้นไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้ลิ้มรส ไม่ได้ถูกต้องกระทบสัมผัส เพราะเหตุว่าเป็นภวังคจิต แต่เมื่อมีเสียงมากระทบ อาจจะเป็นเสียงต่างๆ มากระทบกับโสตปสาท ซึ่งเกิดทุกอนุขณะของจิต เพราะเหตุว่าเป็นรูปที่เกิดจากกรรม เมื่อมากระทบแล้ว แล้วแต่ว่าจะมีปัจจัยที่จิตเกิดขึ้นรำพึงนึกถึงเสียงที่มากระทบ และเป็นปัจจัยให้เกิดการได้ยินหรือเปล่า นี่ก็คือเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย
ที่มา ...