เข้าใจความเป็นไปของจิตโดยนัยต่างๆ
การที่เราจะรู้เรื่องจิต ก็โดยนัยต่างๆ นัยหนึ่งซึ่งเป็นนัยแรกก็คือรู้ว่าจิตที่เกิดขึ้นแต่ละขณะเป็นชาติอะไร ถ้าสามารถที่จะตอบได้ ก็หมายความว่าเราเริ่มที่จะเข้าใจ ความเป็นไปของจิตในวันหนึ่งๆ เช่นในขณะนี้กำลังเห็นเป็นชาติอะไร เป็นชาติวิบาก จิตเห็นขณะนี้เป็นวิบาก แล้วจิตที่คิดเป็นวิบาก หรือไม่ เป็นกุศล หรืออกุศลไม่ใช่วิบาก
ในขณะนี้กำลังเห็นเป็นจิตชาติอะไร จิตเห็นเป็นชาติวิบาก และจิตที่คิดเป็นวิบาก หรือไม่ จิตคิด เป็นกุศล หรืออกุศล ไม่ใช่วิบาก เพราะฉะนั้นจิตมี ๔ ชาติ กุศลเป็นจิตที่ดีงาม ซึ่งเป็นเหตุ อกุศลเป็นจิตที่ไม่ดี เป็นเหตุ วิบากเป็นจิตที่เป็นผลของกรรมซึ่งเกิดจากกุศลจิต และอกุศลจิต และกิริยาจิต คือจิตที่ไม่ใช่กุศล และอกุศล สำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ จะมีกิริยาจิต ๒ ประเภท คือ ปัญจทวาราวัชชนจิตซึ่งเป็นวิถีจิตแรกต้องเกิดก่อนวิถีจิตอื่นๆ วิถีจิตหมายความถึงจิตที่ต้องอาศัยทางหนึ่งทางใดเกิดขึ้น ซึ่งทางทั้งหมดมี ๖ ทาง คือ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เพราะฉะนั้น จิตใดที่ไม่ได้อาศัยตา ไม่ได้อาศัยหู ไม่ได้อาศัยจมูก ไม่ได้อาศัยลิ้น ไม่ได้อาศัยกาย จิตนั้นเป็นอะไร เป็นมโนทวารวิถีจิต คือ อาศัยใจเกิดขึ้น และจิตใดที่ไม่ได้อาศัยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จิตนั้นเป็นจิตอะไร เป็นภวังคจิต ทำกิจดำรงภพชาติ เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องที่เราจะเห็นได้ว่าเป็นชีวิตประจำวัน แต่ด้วยความไม่รู้จึงยึดถือว่าเป็นเรา แต่กว่าจะหมดการยึดถือว่าเป็นเรา ต้องมีความเข้าใจขั้นฟัง ถ้าไม่มีความเข้าใจขั้นฟังโดยละเอียด ก็ไม่มีทางเลยที่จะทำให้สามารถระลึกลักษณะที่ได้ยินได้ฟัง จนกว่าจะเป็นการที่มีสภาพธรรมแต่ละอย่างที่มีจริงๆ ในขณะนั้นกำลังเป็นอารมณ์ปรากฏให้เข้าใจขึ้น
ที่มา ...