พระศาสนามี ๓ ระดับ


    เพราะฉะนั้น ขณะที่ไม่ใช่ภวังคจิตเป็นจิตประเภทที่ทำกิจหน้าที่อื่น นี้เป็นการศึกษาที่เรายังไม่กล่าวถึงละเอียดเป็นขณะจิต เพียงแต่ว่าในวันนี้ที่เราเกิดมา และเราก็หลับไป และเราก็ตื่นขึ้น ความรู้ของเรามีบ้างไหม มากน้อยแค่ไหน ฟังแล้ว ศึกษาแล้ว แต่ความรู้ของเรายังเป็นระดับที่ฟังเรื่องราว จำเรื่องราว แม้ว่าลักษณะของสภาพธรรมกำลังปรากฏ แต่ก็ไม่ได้รู้ความจริงของสภาพธรรมนั้น เพราะฉะนั้นก็เป็นการที่เราจะเห็นว่า พระศาสนามี ๓ ระดับ ขั้นปริยัติ คือ ฟังเรื่องราวเข้าใจ เพราะบางคนจะฟังเรื่องราวก็ยังยากที่จะเข้าใจ ต้องมีการสะสมแม้การฟังที่จะเข้าใจเรื่องราวของสภาพธรรม และก็สามารถที่จะเข้าใจถูกต้องได้ว่า ขณะที่กำลังฟังเข้าใจเรื่องราว ไม่ใช่ขณะที่กำลังเข้าใจตัวจริงๆ ของสภาพธรรมที่กำลังทำหน้าที่ ทางหนึ่งทางใด ทางตา หรือ ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เพราะฉะนั้นก็ยังไม่ถึงกาลที่สามารถจะประจักษ์แจ้งความจริงของสภาพธรรม ซึ่งเป็นสัจจธรรม ซึ่งเมื่อประจักษ์แจ้งแล้วก็สามารถที่จะดับกิเลสเป็นสมุทเฉทถึงความเป็นพระอริยบุคคลได้

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 34


    หมายเลข 6134
    17 ม.ค. 2567