เรียนเรื่องอะไรให้เข้าใจเรื่องนั้นตรงนั้นให้ชัดเจน
เพราะฉะนั้น ถ้าเรียนเรื่องอะไรให้เข้าใจเรื่องนั้นให้ชัดเจน ถ้าเรียนเรื่องปสาทรูปหมายความว่าอะไร ถ้าเรียนเรื่องทวารเป็นอย่างไร ถ้าเรียนเรื่องวัตถุเป็นอย่างไร เช่นขณะนอนหลับมีจักขุปสาทรูปเกิดดับเพราะเป็นกัมมชรูป กรรมทำให้รูปเหล่านี้เกิดสืบต่อกัน เกิดดับอยู่เรื่อยๆ ทุกขณะจิต จิตหนึ่งขณะจะมีขณะย่อย ๓ ขณะ ขณะเกิด (อุปาทะ) ขณะที่ยังไม่ดับ ยังตั้งอยู่ (ฐีติขณะ) ขณะที่ดับ (ภังคขณะ) กรรมทำให้กัมมชรูปเกิดทุกอนุขณะของจิต ไม่มีใครยับยั้งได้ กำลังนอนหลับก็มีจักขุปสาทรูป โสตปสาทรูป ฆานปสาทรูป ชิวหาปสาทรูป กายปสาทรูป
แต่ขณะที่หลับจักขุปสาทรูปเป็นทวาร หรือไม่ มีจักขุปสาทรูปเกิดจริงขณะที่กำลังนอนหลับ แต่จักขุปสาทรูปในขณะที่หลับเป็นจักขุทวาร หรือไม่ ตอบว่าไม่เป็น ถ้าเป็นทวารต้องเป็นทวารของวิถีจิต คือจิตที่เป็นวิถี เพราะขณะที่หลับนั้นเป็นภวังค์ไม่ได้อาศัยทวารหนึ่งทวารใด จึงต้องไม่ลืมว่าขณะใดก็ตามที่เป็นปฏิสนธิจิต เป็นภวังคจิต เป็นจุติจิต เกิดได้รู้อารมณ์ได้โดยไม่อาศัยทวารหนึ่งทวารใดเลย เพราะฉะนั้น ๓ ขณะจิตนี้เท่านั้น เป็นวิถีมุตตจิต คือจิตที่พ้นจากวิถี คือไม่ใช่วิถีจิตนั่นเอง และไม่ได้อาศัยทวารด้วย แม้ว่ามีรูปแต่รูปนั้นก็ไม่ใช่ทวารเกิดแล้วก็ดับแล้ว
ในขณะที่หลับสนิทมีโสตปสาทรูปเกิดดับ โสตปสาทรูปในขณะที่กำลังหลับสนิทเป็นโสตวัตถุคือเป็นที่เกิดของจิต หรือไม่ ขณะที่กำลังนอนหลับมีจักขุปสาทรูป มีโสตปสาทรูปซึ่งเกิดดับอยู่ตลอดเวลา และโสตปสาทรูปขณะที่กำลังหลับสนิทนั้นไม่เป็นที่เกิดของจิต เพราะโสตปสาทรูปจะเป็นที่เกิดของโสตวิญญาณ ๒ ประเภทเท่านั้น คือ กุศลวิบาก ๑ อกุศลวิบาก ๑ จิตอื่นจะเกิดที่นั่นไม่ได้เลย เพราะขณะที่นอนหลับจิตเกิดที่หทยรูป จิตอื่นนอกจากจิต ๑๐ ดวงต้องเกิดที่หทยรูปในภูมิที่มีขันธ์ ๕
ที่มา ...