ขยันหมั่นเพียรที่ถูกต้องไม่ใช่ด้วยความเป็นตัวตน
เมื่อวานนี้ก็มีข้อความในพระสูตรที่พูดถึงเรื่องขยันหมั่นเพียร ซึ่งก็น่าคิดสำหรับคนที่ผ่านพยัญชนะนั้นแล้วก็มีข้อความเหมือนกับให้ขยันหมั่นเพียร สิ่งใดที่ดี พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ทำได้ หรือไม่ เมื่อบอกว่าให้ขยันหมั่นเพียร ใครจะทำได้ ให้เป็นกุศลทุกประการ ใครทำได้ แต่ทั้งหมดที่ทรงแสดงเป็นสังขารขันธ์ซึ่งจะค่อยๆ ซึม และมีความมั่นคงขึ้นในการกระทำ ซึ่งจะทำให้การที่ได้ยินได้ฟังเหล่านั้นจะปรุงแต่งให้มีการน้อมไปในกุศลเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่หมายความว่าเมื่อได้ยินอย่างนี้ก็ชวนกันมาขยันหมั่นเพียร หรือคิดว่าเราต้องขยันหมั่นเพียร วันนี้เราต้องทำอย่างนี้ เราต้องทำอย่างนั้น นั่นคือความเป็นเรา
แต่ขยันหมั่นเพียรในพระสูตร ในพระวินัย และทรงแสดงไว้ในพระอภิธรรมว่าอย่างไร ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล เป็นสภาพธรรม เพราะฉะนั้นถ้าเป็นผู้ที่ไตร่ตรองจะรู้ว่าทรงแสดงให้ละอกุศลแล้วเจริญกุศล แล้วขณะนี้ใครละอกุศล แล้วใครเจริญกุศล แล้วใครขยันที่จะเจริญกุศล ไม่ใช่เป็นเรื่องให้แต่ละคนไปทำด้วยความเป็นตัวตน แต่ให้รู้ความเป็นจริงในเหตุ และในผล ซึ่งเมื่อมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นก็จะปรุงแต่งให้เป็นความเพียรในกุศล โดยที่ไม่ใช่ตัวเราไปเพียร แต่ความเพียรในกุศลจะเกิดขึ้น เช่นวันนี้แต่ละท่านตื่นมาก็คงจะเพียรในกุศลพอสมควรใช่ หรือไม่ ฟังธรรม และก็ทำหลายๆ อย่างนั่นก็คือความเพียร ซึ่งจากการที่ได้ฟังก็จะเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้ค่อยๆ เกิด และค่อยๆ เป็นไป แต่ไม่ใช่เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็กล่าวว่าพระไตรปิฎกบอกว่าเพียรก็เลยต้องมาเพียรกันใหญ่ นั่นก็เพียรด้วยความเป็นตัวตน
ที่มา ...