การรู้ภูมิของจิต มีประโยชน์อะไร
ผู้ฟัง จากการศึกษาก็ทราบเรื่องภูมิทั้ง ๔ ฉะนั้นในภูมิ ๓ เบื้องบน คือ รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และโลกุตตรภูมิ ภูมิของจิตทั้ง ๓ จะเกิดได้ก็ต้องอาศัยการเจริญกามาวจรจิตคือมหากุศลญาณสัมปยุตต์ ๔ การรู้อย่างนี้มีประโยชน์อย่างไร
ท่านอาจารย์ มีประโยชน์มาก เพราะเราจะได้รู้ว่าสำหรับจิตประเภทกามาวจรจิตที่ยังเป็นขั้นกามภูมิสามารถที่จะสูงสุดได้ถึงระดับไหน อกุศลจิตทุกประเภท โลภมูลจิต โทสมูลจิต โมหมูลจิต เป็นรูปาวจรภูมิได้ หรือไม่ ไม่ได้ แต่สำหรับรูปพรหมบุคคลมีอกุศลจิตได้ หรือไม่ ได้ เพราะฉะนั้นอกุศลจิตไม่ว่าจะเกิดในสวรรค์ หรือว่าในพรหมภูมิก็เป็นกามาวจรจิต ไม่เปลี่ยนสภาพ ยังคงเป็นกามาวจรจิตอยู่ นี้พูดถึงอกุศลไม่ว่าจะเกิดที่ไหนก็ตามก็เป็นกามาวจรจิต ทีนี้ถ้ากล่าวถึงกุศลซึ่งขณะนี้ก็เป็นกุศลระดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นกุศลที่เป็นกามาวจรกุศล กุศลที่เป็นไปในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ ที่ยังไม่ถึงขั้นความสงบของขั้นฌาณจิต จะเป็นไปสูงสุดได้แค่ไหน สำหรับกามาวจรกุศล เบื้องต้นเป็นไปในทาน การให้ สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่บุคคลอื่น เป็นกุศลระดับกามาวจร คือกามาวจรจิต เพราะเหตุว่าขณะนั้นไม่ใช่ฌาณจิต ไม่ใช่ความสงบที่มั่นคงจนถึงขั้นอัปปนาสมาธิ
เพราะฉะนั้น ทานกุศลก็เป็นกามาวจรกุศล เกิดขึ้นขณะไหนโดยฐานะก็คือกามาวจรจิต ในขณะที่รักษาศีล หรือเป็นไปในศีล ทางกาย ทางวาจา มีการวิรัตทุจริต หรือมีการกระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ขณะนั้นก็เป็นความประพฤติที่เป็นศีลทางกาย ทางวาจา ก็เป็นกามาวจรจิต แม้ว่าจะสูงขึ้นมาในระดับศีล หรือแม้ขณะที่กำลังฟังธรรม เพื่อที่จะได้เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงก็เป็นกามาวจรจิต เป็นกามาวจรกุศล กุศลนี้ก็ยังเป็นระดับของกามาวจร หรือในขั้นที่อบรมเจริญความสงบ ก่อนการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็มีผู้ที่อบรมเจริญความสงบ ก่อนที่ฌาณจิตจะเกิด กามาวจรกุศลก็เกิด ถ้ากามาวจรกุศลไม่เกิด สงบขึ้นๆ ก็จะเปลี่ยนจากกามาวจรกุศลถึงระดับของอัปปนาสมาธิไม่ได้ เพราะว่ามีความสงบขั้นที่เริ่มสงบขึ้นเป็นกามาวจรจิตถึงขั้นอุปจารสมาธิใกล้ต่อการเป็นฌาณจิตก็ยังเป็นกามวจรจิต ต่อเมื่อใดที่เป็นขณะอัปปนาสมาธิแนบแน่นในอารมณ์นั้นทางมโนทวาร ขณะนั้นจึงเป็นรูปาวจรจิต ซึ่งก็จะมีระดับขั้นด้วย ความสงบนั้นก็จะเพิ่มจากปฐมฌาณ ใช้คำว่าฌาณสำหรับอัปปนาสมาธิ จากปฐมฌาณเป็นทุติยฌาณ เป็นตติยฌาณ เป็นจตุตถฌาน เป็นปัญจมฌาณ พวกนี้ไม่ใช่กามาวจรจิต เพราะฉะนั้นถ้าถึงอัปปนาสมาธิจึงไม่ใช่กามาวจรจิต
สำหรับการอบรมเจริญปัญญาที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ซึ่งไม่ใช่เป็นการอบรมเจริญความสงบ แต่ละขณะที่สติสัมปชัญญะเกิด รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏก็เป็นกามาวจรจิต ไม่ใช่โลกุตตรจิต ตราบใดที่ยังไม่ใช่ขณะจิตที่มีนิพพานเป็นอารมณ์แล้วดับกิเลส ขณะนั้นจะไม่ใช่โลกุตตรจิต เพราะฉะนั้นกุศลที่จะเจริญ ที่เป็นกามาวจรจิตกุศล ก็เจริญได้จากทาน ศีล ภาวนา คือสมถภาวนาที่ยังไม่ถึงอัปปนาสมาธิ และวิปัสสนาภาวนาที่ยังไม่ถึงโลกุตตรจิต
ที่มา ...