ฝันว่าได้ทำความดีเป็นกุศลจิตหรือไม่


    ผู้ฟัง ถ้าฝันว่าได้ทำความดี จะเรียกว่ากุศลจิตไหม

    ท่านอาจารย์ กุศลจิตคิด ขณะนั้นไม่ได้ไปฆ่าใคร ไม่ได้โกรธ ไม่ได้ทำอะไรเลย

    ผู้ฟัง แต่ถ้าฝันไปฆ่าคน

    ท่านอาจารย์ เป็นอกุศลจิต

    ผู้ฟัง แต่ถ้าฝันทำความดี ทำบุญทำทาน

    ท่านอาจารย์ นี่เป็นเหตุหลังจากที่มโนทวาราวัชชนจิตดับแล้ว

    ผู้ฟัง เพราะฉะนั้นการฝันก็ไม่ใช่อกุศลเสมอไป

    ท่านอาจารย์ จิตที่เป็นกุศลหรืออกุศลเท่านั้นที่ฝัน พระอรหันต์ไม่ฝันเลย

    ผู้ฟัง มี ๒ อย่างที่ฝัน กิริยาจิตไม่ฝัน

    ท่านอาจารย์ พระอรหันต์มีกิริยาจิต ไม่มีกุศลหรืออกุศลอีกต่อไป

    ผู้ฟัง แล้วขณะนั้นเป็นการสะสมด้วยหรือไม่

    ท่านอาจารย์ ทุกขณะที่เกิด ดับไป ไม่ไปเปล่า แต่ทิ้งรอยสะสมไว้ในจิตขณะต่อไป ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการสะสมของจิต อัธยาศัยต่างๆ กัน บางคนมีอัธยาศัยให้ทาน แต่ทานก็ยังต่างอัธยาศัยอีก บางคนชอบให้ทานคนพิการ บางคนชอบให้ทานคนป่วยเจ็บ หรืออะไรก็แล้วแต่ บางคนก็มีอัธยาศัยในศีล บางคนก็มีอัธยาศัยในภาวนา ก็เป็นเรื่องของแต่ละขณะจิต ถึงแม้ว่าจะดับไปแล้วก็ตาม กุศล อกุศลทั้งหลายก็สะสมสืบต่อ

    ผู้ฟัง ฉะนั้นถ้าหากว่าเราฝันที่เป็นอกุศลตลอด ก็เท่ากับเราสะสมไป

    ท่านอาจารย์ เตือนแล้วว่าเรามากด้วยอกุศล แม้ฝันยังเป็นอกุศล ลองคิดดูว่าอกุศลที่เราสะสมมามากเพียงใด นี่ก็คือความวิจิตรของความคิด เห็นอย่างเดียวกันแต่คิดคนละอย่างก็เป็นได้ใช่ไหม เพราะฉะนั้นจะเห็นความวิจิตรของจิตที่เกิดขึ้นแต่ละขณะที่ดับไป ก็สะสมสืบต่อทุกอย่างทุกประการ

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 62


    หมายเลข 6739
    20 ม.ค. 2567