อตีตภวังค์ - ภวังคจลนะ
ผู้ฟัง ถ้ามีการกระทบแล้วเกิดเป็นอตีตภวังค์
ท่านอาจารย์ อตีตภวังค์นี่แสดงว่ารูปเกิด จะมีอายุต่อไป ๑๗ ขณะของจิตที่เกิดดับ รูปนั้นจะอยู่ต่อไปไม่ได้เพราะสภาวรูปต้องมีอายุเท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะ
ผู้ฟัง พออตีตภวังค์ดับแล้วก็..
ท่านอาจารย์ เป็นภวังคจลนะก่อน นี่คือความละเอียดที่ทรงแสดงถึงการที่ภวังค์จะสิ้นสุดกระแสลงไปได้ จะสิ้นสุดทันทีไม่ได้ เพราะฉะนั้นก่อนภวังคุปัจเฉทะต้องเป็นภวังคจลนะทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นทางทวารไหน
ผู้ฟัง แล้วภวังคจลนะมีหลายๆ ดวงได้ไหม
ท่านอาจารย์ ภวังคจลนะของแต่ละคนเป็นจิตประเภทเดียวกับปฏิสนธิจิต หมายความว่าบุคคลใดก็ตามปฏิสนธิจิตเป็นอะไร คือต้องเป็นวิบากนี่แน่นอน แต่วิบากนี่มีทั้งกุศลวิบาก และอกุศลวิบาก เพราะถ้าปฏิสนธิของบุคคลนั้นเป็นอกุศลวิบากดับไปแล้ว จิตอะไรเกิดต่อ
ผู้ฟัง ก็ต้องเป็นภวังค์
ท่านอาจารย์ หมายความว่าปฏิสนธิจิตในภพหนึ่งชาติหนึ่งมีขณะแรกขณะเดียว หลังจากนั้นแล้วจะเป็นปฏิสนธิอีกไม่ได้ เพราะปฏิสนธิหมายความว่าสืบต่อจากจุติจิตของชาติก่อน เพราะฉะนั้นจิตขณะแรกทำกิจสืบต่อจากจุติจิตของชาติก่อน จึงเป็นปฏิสนธิจิต แต่เมื่อปฏิสนธิจิตขณะแรกที่เกิดสืบต่อจากจุติจิตดับไปแล้วจะเป็นปฏิสนธิจิตอีกไม่ได้ แต่กรรมก็ไม่ได้ทำให้วิบากเพียงทำกิจปฏิสนธิ
แต่ว่าตัวเจตนาที่ทำไว้จะต้องมีผลมากกว่านั้นอีก คือไม่ใช่เพียงแค่ปฏิสนธิ เพราะกรรมก็ทำให้จิตที่เป็นวิบากประเภทเดียวกันนั้น เกิดสืบต่อจากปฏิสนธิจิต เพราะฉะนั้นปฏิสนธิจิตจึงเป็นอนันตรปัจจัย และสมนันตรปัจจัย ถ้ากล่าวถึงปัจจัยอื่นอีกก็มีอีกมาก แต่ไม่กล่าว กล่าวเฉพาะเพียงว่าเมื่อปฏิสนธิจิตดับไปแล้ว จิตที่เกิดต่อเป็นภวังค์ตามอนันตรปัจจัย และสมนันตรปัจจัยของปฏิสนธิจิต เพราะว่ามีคำถามถึงจิตที่เกิดต่อ
ที่มา ...