ชวนะเหมือนกันกับจิตอื่นไม่ได้


    ผู้ฟัง ดูเหมือนกับว่าจะเป็นลักษณะของชวนะก็เหมือนกัน ตทาลัมพนะก็เหมือนกัน

    ท่านอาจารย์ ไม่เหมือน ชวนะเหมือนกันไม่ได้ เพราะว่าเป็นกุศลก็มี อกุศลก็มี

    ผู้ฟัง แต่หลังจากที่ชวนะที่เป็นกุศลหรืออกุศลเกิดทางปัญจทวารแล้ว ต่อไปก็เหมือนกันเลย

    ท่านอาจารย์ อะไรที่เหมือนกัน

    ผู้ฟัง ชวนะที่เกิดขึ้นทางมโนทวาร

    ท่านอาจารย์ ยัง ยังต้องมีจิตเกิดคั่นสลับ

    ผู้ฟัง หมายถึงภวังคจิตใช่ไหม

    ท่านอาจารย์ หรือตทาลัมพนจิตถ้าอารมณ์นั้นยังไม่ดับ โวฏฐัพพนจิตหรือชวนปฏิปาทกมนสิการมีเหตุเกิดร่วมด้วยไหม เป็นชาติอะไร เป็นชาติกิริยา แล้วก็มีโลภะ โทสะ โมหะ อโลภะ อโทสะ อโมหะเกิดร่วมด้วยไหม ไม่มี เป็นอเหตุกจิต เพราะฉะนั้นก็เกือบจะครบอเหตุกจิต ๑๘ แล้ว ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ๑๐ กุศลวิบาก อกุศลวิบากอย่างละ ๕ สัมปฏิจฉันนะอีก ๒ เป็น ๑๒ สันตีรณะ ๓ เป็น ๑๕ เพราะฉะนั้น อเหตุกวิบากทั้งหมดมี ๑๕ กรรมทั้งหลายที่ได้กระทำแล้ว เมื่อให้ผลก็จะทำให้มีการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส และก็วิบากของกรรมทั้งหลายทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็มีเพียง ๑๕ ยังไม่กล่าวถึงตทาลัมพนะ เพราะค่อยๆ เรียน ค่อยๆ รู้ เพราะถ้ามากเกินไปก็จะสับสนได้ หรือจำไม่ได้ แต่ถ้ามีความแม่นยำตั้งแต่ต้นทีละเล็กทีละน้อย ก็ค่อยๆ เพิ่มได้ ให้ทราบว่า ๑๕ ดวง เป็นวิบากเป็นผลของกรรมที่ไม่ประกอบด้วยเหตุ ถ้ากล่าวเช่นนี้แสดงว่ามีผลของกรรมที่ประกอบด้วยเหตุ แต่สำหรับผลของกรรมที่ไม่ประกอบด้วยเหตุเลย ไม่มีโลภะ โทสะ โมหะ อโลภะ อโทสะ อโมหะเกิดร่วมด้วยเลยทั้งหมดจะมี ๑๕ ดวงเท่านั้น

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 70


    หมายเลข 6925
    22 ม.ค. 2567