ข้อสงสัยเกี่ยวกับมหาภูตรูป ๔
ผู้ฟัง สงสัยเรื่องมหาภูตรูป ๔ ขณะนี้ที่สภาพธรรมปรากฏ เย็นร้อน อ่อนแข็ง เป็นธาตุไฟใช่ไหม เป็นรูปหนึ่งใช่ไหม
อ.อรรณพ ความเข้าใจธรรมต้องตรงตามที่พระองค์ทรงแสดง เช่น ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม กับ "น้ำ" ที่เราใช้กันในภาษาไทย คือเราแปลมาจากคำว่า “อาโป” อาโปธาตุแปลว่าธาตุน้ำ ธาตุน้ำหมายถึงเป็นสภาวะของการเกาะกุม แต่น้ำที่เราเห็นกันอยู่นี้ประกอบด้วยธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุไฟ ธาตุลม แล้วมี รูปอื่นๆ ที่เป็นอุปทายรูปรวมอยู่ด้วย แต่ว่าสิ่งของต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่ประกอบด้วยรูปปรมัตถ์ต่างๆ ตามสมควรกับรูปนั้น
ผู้ฟัง ที่บอกว่า ธาตุน้ำ กระทบกายไม่ได้ แต่คนที่เขาอาบทุกวัน เมื่อเช้าได้พิสูจน์ว่ากระทบกายไม่ได้ แต่ก็อาบทุกวัน แต่รู้สึกว่าหนาวๆ ร้อนๆ เย็นๆ ลักษณะนี้กระทบใจได้ใช่ไหม
อ.อรรณพ จริงๆ แล้วที่กระทบ ถ้าไม่คิดว่าเป็นน้ำ ถ้าไม่คิดว่าเป็นวัตถุเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด จริงๆ แล้วคือปรากฏเฉพาะสภาพธรรม
สภาพธรรมปรากฏทางกายคืออะไร เย็นหรือร้อน อ่อนหรือแข็ง ตึงหรือไหวเท่านั้นที่ปรากฏทางกาย แต่เรามีความจำเรียกว่าวัตถุ นี่เรียกว่าน้ำ แต่จริงๆ แล้วสภาพธรรมปรากฏในแต่ละทวาร ทางตาเป็นเพียงแค่สีเท่านั้น เราไม่เห็นน้ำด้วย ไม่เห็นโต๊ะ ไม่เห็นเก้าอี้ เห็นแค่สี ทางกายก็เหมือนกัน เช่นในขณะที่ว่าเป็นเราที่กำลังอาบน้ำก็เป็นกลุ่มก้อน ทั้งตัวเราก็เป็นกลุ่มก้อน ทั้งน้ำก็เป็นกลุ่มก้อน เราก็นึกถึงว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่จริงๆ แล้วเมื่อปรากฏทางกาย เย็นปรากฏ หรือ ร้อน หรือ ตึงไหว หรือ อ่อน หรือแข็ง เท่านั้นปรากฏ
ผู้ฟัง คำว่า “น้ำ” “ธาตุน้ำ” มีหรือไม่
อ.อรรณพ ตามที่เรียนให้ทราบแล้วว่า“น้ำ” ในภาษาไทยที่เราใช้อาบ ดื่มกินก็ประกอบด้วยทั้งธาตุดิน ธาตุไฟ ธาตุน้ำ ธาตุลม และมีอุปาทายรูปต่างๆ ที่อาศัยพึ่งพิงมหาภูตรูปทั้ง ๔ นี้คือโดยขั้นเข้าใจ ส่วนขั้นระลึกนั้นก็จะประจักษ์ในลักษณะเฉพาะธาตุอย่างหนึ่งที่ปรากฏทางตา แต่ที่คิดว่าเป็นน้ำแล้วไหล ก็คือเป็นความคิด
ผู้ฟัง คำว่า ชื่อเสียงเรียงนาม ตึกรามบ้านช่อง ภูเขา ต้นไม้ รถ เรือ คนขณะที่นั่งอยู่นี้ ไม่มีใช่ไหม เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น
อ.อรรณพ สิ่งที่ปรากฏทางตา คือ สีสันวัณณะเท่านั้น แต่การคิดนึกว่าเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นภูเขา เป็นน้ำ เป็นแม่น้ำลำคลอง หรืออะไร นั่นคือความคิดหลังจากการเห็น
ผู้ฟัง เป็นบัญญัติใช่ไหม
อ.อรรณพ ใช่
ที่มา ...