มีความเข้าใจจริงๆ ว่าธรรมเป็นอย่างนี้
ท่านอาจารย์ ขณะที่กำลังฟังก็มีความเข้าใจจริงๆ ว่าธรรมเป็นอย่างนี้ เป็นสิ่งซึ่งไม่มีใครสามารถจะบังคับบัญชาได้ จะให้สภาพธรรมเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น คือทันทีขณะนี้เห็นเลยก็ไม่ได้เพราะเราไม่รู้ แต่ถ้ารู้ก็จะรู้ได้จริงๆ ว่าสภาพธรรมเกิดดับสืบต่อเร็วมากจึงทำให้ยึดถือสภาพธรรมนั้นๆ ว่าเป็นเรา เป็นตัวตน เป็นโลกที่มีทุกสิ่งทุกอย่างที่กว้างใหญ่ ไม่ได้เกิดดับเลย แต่จากการฟังไม่ได้มุ่งที่ว่าจะต้องไปจำ แต่กำลังฟังให้เห็นความจริงว่าเมื่อพระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้ก็ได้ทรงแสดงพระธรรมที่เป็นอภิธรรมโดยละเอียด ถ้าโดยนัยของพระสูตรก็จะไม่มีปัญจทวาราวัชชนจิต และก็จะไม่มีสัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะ โวฏฐัพพนะเลย ก็จะมีแต่สิ่งซึ่งเราสามารถจะเข้าใจได้ในขณะนี้เช่น เห็นมี และก็เมื่อเห็นแล้วจะไม่ยินดีในสิ่งที่เห็นเป็นไปได้ไหม แต่เราไม่รู้ตัวไม่ว่าอะไรจะปรากฏ แม้ว่าสภาพธรรมนั้นเป็นเพียงรูปธรรมซึ่งไม่ใช่สภาพรู้เลย บังคับบัญชาก็ไม่ได้ ปรากฏเมื่อเกิดแล้ว แต่เมื่อไม่รู้ความจริงอย่างนี้ก็มีความติดข้องในสิ่งที่ปรากฏทุกอย่างจนกระทั่งเป็นอุปาทานเป็นการยึดถือที่มั่นคง เพราะฉะนั้นก็ยากแสนยากที่จะละคลายความยึดมั่นในสิ่งที่ปรากฏ จนกว่าความรู้ค่อยๆ รู้ขึ้น แต่ไม่ต้องไปคิดเรื่องความจำที่จะต้องจำ
ที่มา ...