มีเหตุปัจจัยให้เกิดใหม่แล้วก็ดับไปเสมอ
ผู้ฟัง เพราะฉะนั้นในขณะที่เราเกิดความโกรธ แล้วในขณะนั้นเราก็นึกถึงเรื่องของอารมณ์ เช่น คนหรือสัตว์ ที่เป็นอารมณ์ที่ทำให้เกิดความโกรธเรื่อยๆ เรื่องนั้นอาจจะผ่านไปนานแล้ว อย่างนี้ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นอารมณ์ไหนที่จะมาค้างได้
ท่านอาจารย์ ถ้าจะให้เข้าใจที่คุณวีระกล่าว ขณะนี้ก็เหมือนกัน ยังไม่ใช่ความโกรธก็จริง แต่เราก็มีเรื่องเยอะใช่ไหม เรื่องสิ่งที่กำลังปรากฏเป็นดอกไม้ เป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้ เรื่องเสียงที่ได้ยินเป็นคำต่างๆ เป็นเรื่องราวของจิตบ้าง เจตสิกบ้าง ก็คือเมื่อจิตแต่ละขณะเกิดจะต้องรู้อารมณ์ทีละหนึ่งแล้วก็ดับ แล้วก็สืบต่อ แต่ความรวดเร็วก็ทำให้เสมือนกับว่ายังมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ยังไม่ได้ดับไป แม้แต่เรื่องราว เราก็ยังใช้คำว่าค้าง แต่ความจริงไม่มี เมื่อไม่มีแล้วจะค้างได้อย่างไร รูปก็มีอายุแค่ ๑๗ ขณะดับแล้ว แล้วจะค้างได้อย่างไร จิต เจตสิกก็แค่อนุขณะ ๓ ขณะแล้วก็ดับไปแล้วจะค้างได้อย่างไร
ผู้ฟัง เพราะฉะนั้น ก็ให้เข้าใจว่าสิ่งที่จะเป็นอารมณ์ของจิตหรือระลึกถึงอะไรก็แล้วแต่ ทุกอย่างเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นโกรธ หรืออะไรก็ตามในขณะนี้
ท่านอาจารย์ การศึกษาธรรมเพื่อให้เข้าใจว่าไม่มีอะไรเหลือ ฉะนั้นค้างไม่ได้เลย ทุกอย่างเกิดแล้วดับ และไม่กลับมาอีกเลย มีเหตุปัจจัยแล้วก็เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป มีเหตุปัจจัยเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป
ผู้ฟัง เพราะฉะนั้นทุกสิ่งที่เกิด ก็เกิดขึ้นใหม่เท่านั้นเอง
ท่านอาจารย์ ถูกต้อง
ที่มา ...