ชวนจิตแต่ละดวงจะให้ผล ให้วิบากต่างกันอย่างไร


    ผู้ฟัง ชวนจิต ทั้ง ๗ ดวง แต่ละดวงจะให้ผล จะให้วิบากต่างกันอย่างไร

    ท่านอาจารย์ ขณะนี้ยังไม่รู้แต่ละขณะจิตใช่ไหม

    ผู้ฟัง ยัง

    ท่านอาจารย์ ฟังทางวิทยุ เมื่อเช้าหรือตอนไหนก็มีเรื่องของชวนจิต ก็แต่ว่าธรรมจะให้ได้ประโยชน์จริงๆ คือได้เป็นความเข้าใจที่ว่า ไม่ว่าเราจะพูดถึงกุศลจิตหรืออกุศลจิตซึ่งเกิดต่อจากจิตเห็นจิตได้ยิน เรารู้ตัวเราได้ไหมว่าขณะนี้กำลังเห็น แล้วหลังจากเห็นจิตเป็นอะไร เมื่อครู่นี้เราบอกแล้วใช่ไหมว่าเป็นกุศลหรืออกุศล ถ้าเป็นโลภะ รู้ตัวไหมขณะเห็นเราพอใจแล้วในสิ่งที่เห็น ยับยั้งไม่ได้เลย เร็วขนาดนั้น เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าความพอใจของเรามากมายไม่ว่าจะเป็นทางตาเห็น ทางหูได้ยิน ทางจมูกได้กลิ่น ทางลิ้นลิ้มรส ทางกายรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส เพราะฉะนั้นจึงเห็นอัธยาศัยที่ต่างๆ กัน เพราะว่าชวนวิถีจิตจะเกิดดับสืบต่อซ้ำกัน ๗ ขณะ ถ้าเป็นโลภะก็เป็นโลภะ ๗ ขณะ ถ้าโลภะนั้นประกอบด้วยโสมนัสก็เป็นโลภโสมนัสทั้ง ๗ ขณะ ถ้าโลภะนั้นเกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนาทั้ง ๗ ขณะซึ่งเกิดดับสืบต่อก็เป็นอุเบกขาเวทนา สะสมหลังจากที่ดับไปแล้ว เพราะว่าวิบากจิตไม่ได้สะสมเป็นอุปนิสัยหรือเป็นอัธยาศัยเลย เพราะว่าเป็นผลที่เกิดจากกรรม เมื่อกรรมได้กระทำแล้ววิบากจิตต้องเกิดตามกาละเพราะเหตุว่ากรรมมีมาก แล้วแต่ว่ากาละไหนกรรมใดพร้อมที่ใช้คำว่าสุกงอม พร้อมที่จะให้ผลที่จะทำให้เกิดขึ้น วิบากจิตประเภทนั้นๆ ก็เกิดขึ้น ทางตาเห็นสิ่งที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจซึ่งเลือกไม่ได้ เป็นผลของกรรมจริงๆ แต่หลังจากนั้นเราติด ได้เริ่มเหตุใหม่ในสิ่งที่ปรากฏ หรือเราอาจจะเกิดโทสมูลจิตไม่ชอบในสิ่งที่ปรากฏ เกินกว่าที่จะยับยั้ง ด้วยเหตุนี้แต่ละคนจึงมีอัธยาศัยหรืออุปนิสัยต่างๆ กัน พอที่จะรู้ตัวไหมว่าเป็นคนที่มีอุปนิสัยหรืออัธยาศัยอย่างไร บางคนติดมาก ชอบไปหมดเลยทุกอย่าง บางคนก็หงุดหงิดตั้งแต่เช้า บ่นไปอะไรต่ออะไรไป ขวางหูขวางตาไปหมด ทุกอย่างนั้นก็ไม่เรียบร้อย มีฝุ่นมีอะไร อาจจะพร่ำพูดในสิ่งซึ่งขณะนั้นเป็นอย่างนั้น จะมีใครได้ยินหรือไม่ได้ยิน แต่ก็ทำให้มีการไหวของวาจาที่จะกล่าวคำอย่างนั้น

    เพราะฉะนั้นชีวิตที่ผ่านมาในอดีต เราสามารถจะเห็นในปัจจุบันชาตินี้ได้ จากตัวเราเอง จากการกระทำของเราว่าได้เคยสะสมอะไรมา ถ้าสะสมการที่จะสนใจฟังธรรม ก็รู้ได้ว่าการสนใจของเราสนใจที่จะศึกษาในแบบไหน ในการที่จะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่มีหรือว่าศึกษาแบบวิชาการทางโลก เพราะเหตุว่าเราคุ้นเคยกับการศึกษาทางโลก มีตำรา มีคำถาม คำตอบ มีการสอบ มีการประเมิน แต่นั่นคือเราศึกษาธรรมเหมือนเราศึกษาวิชาหนึ่งวิชาใดที่เราเคยศึกษาแล้ว แต่ไม่ใช่ศึกษาเพื่อที่จะเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมตามกำลังของการสะสมของเรา

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 103


    หมายเลข 7669
    22 ม.ค. 2567