รูปเป็นสหชาตปัจจัยต่อกันหรือไม่


    ขณะนี้รูปกำลังเกิดดับหรือไม่ รูปที่โต๊ะกับรูปที่เก้าอี้ เก้าอี้ ๒ ตัวเกิดพร้อมกันมีอายุ ๑๗ ขณะแล้วก็ดับ เวลาที่รูปที่โต๊ะเกิดกับรูปที่เก้าอี้แต่ละตัวเกิดเป็นสหชาตปัจจัยหรือไม่ เกิดพร้อมกัน เป็นสหชาตปัจจัยหรือไม่ (ไม่เป็น) เพราะเหตุว่าเกิดเพราะสมุฏฐาน ไม่ใช่ปัจจัยของรูปนี้ไปเป็นปัจจัยให้รูปนั้นเกิดได้ ถ้าพูดถึงปัจจัยกับปัจจยุบบันต้องหมายความว่าถ้าใช้คำว่าสหชาตปัจจัย อะไรเป็นปัจจยุบบันหรือสหชาตปัจจยุบบันของสหชาตปัจจัยนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อรูปนั้นเกิดไม่เกี่ยวข้องกับรูปนี้เลย จะบอกว่ารูปนี้เกิดไปเป็นปัจจัยให้รูปนั้นเกิดพร้อมกันไม่ได้ ต่างคนก็ต่างเกิดตามสมุฏฐานแม้ว่าจะเกิดพร้อมกัน แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัย และปัจจยุบบัน

    มหาภูตรูป คือ ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ต้องมีสี กลิ่น รส โอชา เกิดร่วมด้วย เพราะฉะนั้นเวลาที่มหาภูตรูปเกิด รูปที่เกิดร่วมด้วยเป็นสหชาตปัจจัยคือเกิดพร้อมกัน มหาภูตรูปเป็นปัจจัยให้อุปาทายรูป ๔ เกิด แต่อุปาทายรูป ๔ ไม่ได้เป็นปัจจัยให้มหาภูตรูปเกิด

    ปัจจัยเป็นเรื่องละเอียดแต่ว่าเข้าใจได้ และต้องเข้าใจความละเอียดด้วยว่า แต่ละปัจจัยก็ต้องต่างกัน แม้แต่จะเกิดพร้อมกันก็จริง แต่เมื่อไม่ใช่ปัจจัย และปัจจยุบบันซึ่งกัน และกันก็ต้องไม่ใช่เป็นปัจจัยแก่กัน ต่างคนก็ต่างเกิดตามสมุฏฐานต่างๆ กัน แต่ถ้ารูปใดเกิดพร้อมกันด้วยแล้วเป็นปัจจัย นั่นจึงจะกล่าวได้ว่า รูปนี้เป็นปัจจัยแก่รูปนั้น มหาภูตรูป ๑ คือธาตุดินเกิดขึ้นเป็นปัจจัยหรือไม่ ในเมื่อต้องมีมหาภูตรูปอีก ๓ เกิดร่วมด้วยพร้อมกัน นี่ก็แสดงให้เห็นว่าถ้าเข้าใจว่า มหาภูตรูปทั้ง ๔ เกิดพร้อมกัน เวลายกมหาภูตรูป ๑ ก็แสดงว่ามหาภูตรูปอื่นเป็นปัจจยุบบันของมหาภูตรูปที่เป็นปัจจัย ถ้ายกธาตุดินเป็นปัจจัย ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลมก็เป็นปัจจยุบบันของธาตุดิน ถ้ายกธาตุไฟเป็นปัจจัย ก็เป็นสชาตปัจจัยด้วย และเป็นปัจจยุบบันของปัจจัยที่ยกขึ้นมาหนึ่ง แต่ต้องเป็นปัจจัย แต่ สี กลิ่น รส โอชา ไม่ได้เป็นปัจจัยให้มหาภูตรูปเกิดแม้เกิดพร้อมกัน แต่เฉพาะมหาภูตรูปเป็นปัจจัยโดยเป็นสหชาตปัจจัยให้แก่รูปอื่นซึ่งอาศัยรูปนั้นเกิด แต่รูปที่อาศัยมหาภูตรูปเกิดนั้นจะกล่าวว่าเป็นปัจจัยให้มหาภูตรูปเกิดไม่ได้

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 109


    หมายเลข 7793
    22 ม.ค. 2567