อะไรทำให้ได้ฟังพระธรรมวันนี้
ผู้ฟัง กุศลถ้าจะเกิดต้องมีเหตุปัจจัย
ท่านอาจารย์ ต้องมีเหตุปัจจัย
ผู้ฟัง ยังไม่มีเหตุ ปัจจัยเลยยังไม่มาหรือไม่
ท่านอาจารย์ เราเกิดมาเรารู้ไหมว่าปฏิสนธิจิตเราสะสมอะไรมาบ้างที่จะมาได้ฟังธรรมวันนี้คิดไหม
ผู้ฟัง ก็ไม่ได้คิด
ท่านอาจารย์ แต่ต้องมีปัจจัย ทำไมบางคนไม่ได้ฟังเลย ทำไมบางคนได้ฟัง
ผู้ฟัง เหมือนพระสูตรเมื่อวานนี้ ขุดรูแต่ไม่อยู่ แต่มีข้อหนึ่งที่บอกว่าไม่ขุดรูแต่อยู่ คือเขาไม่ร่ำไม่เรียนแต่เขารู้ ตรงนี้จะเป็นอย่างไร
ท่านอาจารย์ อันนี้ไม่ได้หมายความว่าการเรียนหมายถึงอะไร และการสะสมหมายความถึงอะไร การเรียนเราอาจจะคิดว่าเราอ่านหนังสือ อ่านตำราหลายเล่ม เข้าใจพยัญชนะ เข้าใจคำ จำได้ แต่นั่นคือเรียนหรือไม่ ถ้าเรียนคือความเข้าใจในสิ่งที่มีจริงๆ ซึ่งคำนั้นบ่งถึง ถ้าเป็นธรรม พระธรรมที่ทรงแสดงไว้ มีคำที่แสดงถึงลักษณะของสภาพธรรมให้เข้าใจ เพราะฉะนั้นการเรียนไม่ใช่การอ่านคำออก แต่ไม่รู้ความหมาย แต่ต้องหมายความว่าสามารถจะเข้าใจอรรถ ความหมายของคำนั้นว่าขณะนี้เป็นสภาพธรรมอะไร เช่น ความจงใจมี ไม่ใช่ไม่มี แต่เป็นธรรม เป็นธรรมที่ไม่ใช่จิตแต่เป็นเจตสิก และก็เป็นเจตสิกที่เกิดกับจิตทุกประเภท เพราะฉะนั้น ความหลากหลายของความจงใจก็ต้องมี เจตนาเจตสิกที่เกิดกับปฏิสนธิจิตก็ต้องต่างกับเจตนาเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิต และอกุศลจิต นี่คือเราเริ่มเข้าใจความเป็นปัจจัย เพราะทั้งหมดจะนำไปสู่ความเห็นถูกว่าไม่มีเรา ไม่มีตัวตน มีแต่ธรรม นี่คือสิ่งที่เราจะเข้าใจพระธรรมได้ ถ้าเรายังคิดว่าเป็นเราอยู่ก็แปลว่าตรงนั้นเราไม่ได้เข้าใจ เราก็ต้องไตร่ตรองว่าจริงๆ แล้วเป็นตัวตนหรือไม่ หรือว่าขณะนั้นก็เป็นชั่วหนึ่งขณะจิต ซึ่งประกอบด้วยเจตสิกต่างๆ แล้วแต่ชาติว่าเป็นชาติวิบาก กุศล หรืออกุศล หรือเป็นชาติกิริยา
ที่มา ...