ต้องรู้รูปตามความเป็นจริง


    ผู้ฟัง ในกรณีที่มีการยืน เดิน นั่ง นอน มันเป็นกลุ่มของรูปที่มีลักษณะอย่างนั้น

    ท่านอาจารย์ กี่รูป กี่กลุ่ม กี่กลาป ทยอยกันเกิดดับหรือเปล่า หรือเกิดพร้อมกันดับพร้อมกัน

    ผู้ฟัง เกิดพร้อมกันดับพร้อมกัน

    ท่านอาจารย์ ในปฏิสนธิขณะ รูปที่เกิดพร้อมกับอุปาทขณะ กัมมชรูป พอถึงขณะที่เป็นฐีติขณะก็มีกัมมชรูปเกิดอีก พอถึงภังคขณะก็มีกัมมชรูปเกิดอีก กลุ่มของรูปในสามขณะนี่ดับพร้อมกันหรือเปล่า เพราะว่ารูปที่เป็นสภาวรูปมีอายุเท่ากับรูปเกิดดับ ๑๗ ขณะ เพราะฉะนั้นขณะนี้รูปที่ตัวมีรูปที่ดับพร้อมกันหมดเลย หรือว่ามีรูปที่เกิดแล้วมีอายุ ๑๗ขณะของจิตแล้วทยอยกันเกิดดับ จิตที่ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดรูปนอกจากขณะปฏิสนธิจิตทุกภพภูมิ แล้วก็จุติจิตของพระอรหันต์ และอรูปาวจรวิบากที่เกิดเป็นอรูปพรหมภูมิ ในชีวิตประจำวันจิต ๑๐ ประเภทไม่เป็นปัจจัยให้เกิดรูปคือทวิปัญจวิญญาณได้แก่จิตเห็นในขณะนี้ ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดรูป นอกจากนั้นแล้วจิตอื่นเป็นปัจจัยให้เกิดรูปแล้วก็มีอายุ๑๗ ขณะแล้วก็ดับ คุณวิจิตรจะดูอะไร ถ้าดูก็คือผิด ไม่ใช่สติ แต่เป็นคุณวิจิตรดู นี่คือความละเอียด สัทธรรมหรืออสัทธรรม จะทำให้เกิดความเห็นที่ถูกต้องที่จะสามารถดับกิเลสได้หรือว่าไม่สามารถที่จะดับกิเลสได้ ถ้าไม่สามารถจะดับกิเลสได้เพราะไม่ได้รู้รูปตามความเป็นจริงทางหนึ่งทางใดใน ๖ ทาง สำหรับทางใจ รูปที่รู้ทางตาเมื่อดับแล้ว ทางใจก็คือมโนทวารวิถีจิตก็รู้รูปนั้นต่อ ไม่ใช่รูปอื่น ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ก็โดยนัยเดียวกัน เพราะฉะนั้นคุณวิจิตรจะเอารูปอะไรรู้ทางใจในขณะนี้

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 129


    หมายเลข 9150
    26 ม.ค. 2567