กรรมและผลของกรรม เหมือนเรื่องราว
ผู้ฟัง พอเรื่องของปรมัตถ์แล้วย้อนกลับไปจนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็จะบอกว่าเป็นเหตุ เป็นปัจจัย เป็นกรรม เป็นผลของกรรม มันก็เลยเหมือนเรื่องราว
ท่านอาจารย์ นั่นคือคิด แต่ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้น ขณะนั้นมีสภาพธรรมที่ได้ยินได้ฟัง แทนที่จะคิดก็มีการรู้ตรงลักษณะที่ได้ยินได้ฟัง นั่นก็คือการศึกษา หรือสิกขาที่เป็นไตรสิกขา พร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ที่กำลังรู้ลักษณะที่กำลังปรากฏ เพราะฉะนั้นถ้าฟังแล้วคิดเรื่องธรรม ก็เป็นการวิเคราะห์ หรือตรึกถึงชื่อ แต่ว่าลักษณะจริงๆ ไม่ได้รู้ แต่ว่าขณะที่กำลังเป็นชีวิตประจำวัน เมื่อฟังแล้วก็รู้ว่าขณะนี้เป็นสภาพธรรม “แข็ง” กำลังปรากฏเป็นสภาพธรรม “เห็น” เป็นสภาพธรรม “ได้ยิน” เป็นสภาพธรรม นี่คือรู้ชื่ออีก รู้เรื่องอีก จนกว่าจะรู้ "ลักษณะ" โดยที่ขณะนั้นลักษณะเท่านั้นที่กำลังปรากฏ จริงๆ ไม่ต้องคิดเพราะเหตุว่าฟังแล้วก็ค่อยๆ เข้าใจ ค่อยๆ รู้ว่าเป็นลักษณะแต่ละลักษณะ
ผู้ฟัง เห็นขณะนี้เป็นสภาพธรรม และเห็นขณะนี้เป็นผลของกรรม หรือ
ท่านอาจารย์ ก็ต้องฟังต่อไป การเห็นบังคับบัญชาไม่ได้เลย ทุกคนอยากจะเห็นสิ่งที่ดี แต่ว่าบางคนก็เห็นสิ่งที่ดี บางคนก็เห็นสิ่งที่ไม่ดี ใช่ไหม หรือเราจะใช้คำว่า "บางกาล" จิตก็เห็นสิ่งที่ดี "บางกาล" จิตก็เกิดขึ้นเห็นสิ่งที่ไม่ดี ตามเหตุตามปัจจัย แล้วก็ต้องรู้ด้วยว่าเหตุปัจจัยนั้นคืออะไร
ที่มา ...