ทำไมคนที่มีกิเลสมากๆ จึงสามารถดับกิเลสได้หมด
ผู้ฟัง ถ้าเรามีอัตตาน้อยลง ลดอัตตาให้มากขึ้น ความรู้สึกของผมมันเหมือนกับถ้าเราไม่มีตัวมีตน ไม่มีอะไร เราจะเป็นโมฆะบุรุษไปหรือเปล่า ที่พูดอาจจะใช้คำไม่ถูก คือรู้สึกไม่มีอะไร จะไปเมตตาใครทำไม กรุณาใครทำไม
ท่านอาจารย์ ถ้าบอกว่าไม่มีตัวตน ประโยคนี้ครึ่งเดียวยังไม่จบ เมื่อไม่มีตัวตนแล้วมีอะไร ขณะนี้มี
ผู้ฟัง มีจิต
ท่านอาจารย์ มีจิต มีเจตสิก มีรูป ถ้าสามารถที่จะเข้าใจว่าเป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดแล้วก็ดับตามความเป็นจริง เพราะว่าผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงแสดงธรรมตามความเป็นจริง ถ้าอย่างนั้นจะไม่มีความหมายอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็ไม่มีการกล่าว ไม่มีการที่จะเข้าใจความจริงได้ แต่เมื่อสภาพธรรมเป็นจริงอย่างนี้ การที่เรามีทุกข์เพราะเรายึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา ทั้งหมดเลย ทุกข์ทั้งหลายต้องมาจากความไม่รู้ความจริง และมาจากการยึดถือ ถ้าเป็นเราอยู่ตราบใด ใครพูดไม่ดีก็โกรธ ใครไม่ต้อนรับ ไม่ประพฤติอย่างที่ดีก็โกรธ ทุกอย่างพร้อมที่จะไม่พอใจได้ทั้งหมด เพราะมีความเป็นเรา และก็ถ้าเราเป็นคนที่มีความรู้ มีความสามารถ และคนอื่นไม่เห็นความรู้ความสามารถนั่นก็โกรธอีก เรื่องที่จะไม่พอใจมีมาก ทั้งหมดพื้นฐานมาจากความยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน ทำไมคนที่มีกิเลสมากๆ ในแสนโกฏิกัปป์ที่สะสมมาสามารถที่จะดับกิเลสนั้นหมดไม่เหลือเลย นี่ก็แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าจะมีความเป็นตัวตนสะสมมานานแสนนาน แต่ปัญญาที่เริ่มเข้าใจถูก เริ่มเห็นถูกจะนำมาซึ่งกุศลทั้งปวง ถ้าเรารักสุข คนอื่นก็รักสุข ถ้าเราเกลียดทุกข์ คนอื่นก็เกลียดทุกข์ แค่นี้ก็ยังพอที่จะทำให้กุศลเจริญได้ แม้ว่ายังมีความเป็นเรารักสุข คนอื่นก็รักสุขเหมือนกัน แต่ถ้ารู้ความจริงๆ ทั้งหมด ไม่มีกิเลสเหลือเลย จะเป็นภาวะที่สบาย และเป็นสุขสักแค่ไหน ไม่เดือดร้อนด้วยประการใดๆ ทั้งสิ้น แต่เดือดร้อนเพราะมีความเป็นเรา
ที่มา ...