ทั้งๆ รู้
ผู้ฟัง ลักษณะขุ่นเคืองใจ และรำคาญใจ แม้กระทั่งผู้ที่สนใจธรรมก็ต้องเกิด เพราะว่ามีปฏิฆานุสัยซึ่งเป็นรากเหง้าของกิเลสใช่ไหม พระโสดาบันก็ยังมีความขุ่นเคืองใจ และก็รำคาญใจ
สุ . เพราะไม่ใช่พระอนาคามีบุคคล และความจริงกิเลสทั้งหมด ทั้งหมดเลยดับไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เป็นพระอริยบุคคล และการดับกิเลสก็ต้องดับตามลำดับขั้นด้วย เพราะฉะนั้น ผู้ที่เข้าใจธรรมไม่หลงผิด เพราะว่าอะไร ทั้งๆ รู้ อกุศลจิต ๑๒ ประเภท ถ้าถามก็อาจจะขึ้นใจได้เลย โลภมูลจิต ๘ โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒ โลภะก็เป็นไปในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นเหตุให้เกิดทุกข์สารพัดรู้ แต่ก็เป็นไปกับโลภะ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีกำลัง ไม่ใช่ปัญญาระดับที่สามารถจะดับการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน และดับกิเลสจนถึงความเป็นพระอนาคามีที่จะไม่ติด ไม่พอใจในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้น ก็เป็นผู้ที่รู้จักตัวเอง รู้จักอย่างไร สิ่งใดที่เกิดแล้วนั่นแหละแสดงถึงการสะสมที่ได้สะสมมา แม้ว่าเราจะสะสมมามากแสนมาก แต่ถ้าไม่มีปัจจัยที่จะทำให้สภาพธรรมนั้นเกิดขึ้นก็ยังไม่เกิด บางคนก็อาจจะคิดว่าเป็นคนดีมาก แล้วก็หลอกตัวเองไป แต่ว่าตามความเป็นจริงตราบใดที่ยังไม่เป็นพระอริยบุคคล อนุสัยกิเลสก็ยังอยู่เต็ม และพร้อมที่จะเป็นพืชเชื้อปัจจัยที่จะให้อกุศลจิตเกิดขึ้นทำกิจการงานร่วมกับจิต ก็เป็นผู้ที่เข้าใจถูกต้องว่าการศึกษาหรือความเข้าใจขั้นปริยัติก็เป็นการสะสมที่จะทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ แต่ถ้าตราบใดที่ยังไม่ถึงความเป็นพระอริยบุคคลก็จะดับกิเลสใดๆ ไม่ได้เลยทั้งๆ รู้ แต่รู้ขั้นปริยัติ
ที่มา ...
หมายเหตุ :ไฟล์เสียงซ้ำกัน๓ครั้ง