เพื่อนที่ควรคบ

 
wannee.s
วันที่  22 ต.ค. 2551
หมายเลข  10186
อ่าน  10,286

1. อดทนคำพูดของเพื่อนได้ เช่น มีความคุ้นเคยกันก็ทำให้พูดไม่ดี ฯลฯ

2. เป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่ทำชั่วทางกาย ทางวาจา ทางใจ

3. มีจิตไม่โลเล ไม่รักง่าย หน่ายเร็ว

4. ไม่คบคนพาล เพราะคนพาลแนะนำสิ่งที่ไม่ดี เช่น ทำให้เห็นผิด เป็นต้น

5. เป็นผู้ติเตียนบาป ห้ามเพื่อนไม่ให้ทำชั่ว แนะนำให้ทำดี

6. เป็นผู้ฟังธรรมะมาก อธิบายธรรมะที่ยากให้เข้าใจ

พระพุทธเจ้าตรัสว่า การได้เพื่อนดี สหายดี เป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ การเลือกคบเพื่อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ บางคนในชีวิตยังหาเพื่อนที่ดีคนเดียวยังยากเลย ถ้าเจอบัณฑิตแล้วก็ควรถนอมมิตรนั้นไว้ แม้จะถูกไล่ก็ไม่ไปค่ะ เพื่อนแม้มีมาก แต่ไม่ดี สู้มีเพื่อนที่ดีคนเดียวไม่ได้ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ปริศนา
วันที่ 22 ต.ค. 2551

พระพุทธเจ้าตรัสว่า การได้เพื่อนดี สหายดี เป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ การเลือกคบเพื่อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ บางคนในชีวิตยังหาเพื่อนที่ดีคนเดียวยังยากเลย ถ้าเจอบัณฑิตแล้วก็ควรถนอมมิตรนั้นไว้ แม้จะถูกไล่ก็ไม่ไปค่ะ เพื่อนแม้มีมาก แต่ไม่ดี สู้มีเพื่อนที่ดีคนเดียวไม่ได้ค่ะ จะพูดสักกี่ครั้ง ก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยน

ขออนุโมทนาในกุศลจิตที่มีต่อสหายธรรม อย่างสม่ำเสมอ ตลอดมาค่ะ


 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 22 ต.ค. 2551

ดังนั้น แม้รู้ว่าจะไม่มีวันถูกไล่ และรู้ว่าแม้จะถูกไล่ (ซึ่งท่านคงไม่ไล่) ก็จะไม่ไปไหนครับขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pornpaon
วันที่ 22 ต.ค. 2551

อดทนคำพูดของเพื่อนได้ เช่น มีความคุ้นเคยกันก็ทำให้พูดไม่ดี ฯลฯ ขออภัยที่นอกเรื่อง หากเรามีเพื่อนที่เขามักหวังว่า เราจะอดทนคำพูดที่ไม่ดี เพราะความเป็นคนที่ช่างมีอารมณ์แปรปรวนของเขาได้อยู่เสมอ เขามักลืมตัวและพูดไม่ดีบ่อยๆ เขามักให้สัญญาว่าจะไม่ทำอีก แต่ในที่สุดก็ยังทำอีกอยู่ดี หรือ ในยามที่เราเห็นภัย เป็นห่วง และรีบเตือน เขากลับไม่เห็นว่าเราเป็นเพื่อน เราก็ควรให้อภัย และคิดเสียว่า เขาสะสมมาของเขาอย่างนั้นเอง ควรเมตตาเขาต่อไป ใช่มั้ยคะ

ขออนุโมทนาพี่วรรณี

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
suwit02
วันที่ 22 ต.ค. 2551

มิตรดี เป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้น

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 22 ต.ค. 2551

เพื่อนแท้ควรช่วยเหลือเพื่อนยามเพื่อนประมาทจะเกิดความเสียหายใดๆ ก็คอยช่วยเหลือ ร่วมทุกข์ร่วมสุขยามเพื่อนมีอันตรายก็ไม่ทอดทิ้ง คอยแนะนำเพื่อนให้ กระทำแต่สิ่งที่ดีงามสิ่งที่มีประโยชน์ และสิ่งที่สำคัญคือให้เพื่อนได้ฟังพระธรรม ได้ประพฤติปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ajarnkruo
วันที่ 22 ต.ค. 2551

อาการของมิตร ๑๖ ประการ คือ บุคคลผู้เป็นมิตรนั้น ย่อม...

๑. ระลึกถึงเพื่อนผู้อยู่ห่างไกล

๒. ยินดีต้อนรับเพื่อนผู้มาหา

๓. ถือว่าเป็นเพื่อนของเราจริง

๔. รักใคร่ (เพื่อน) จริง

๖. ทักทายปราศรัย (กับเพื่อน) ด้วยวาจาที่ไพเราะ

๗. คบหาผู้ที่เป็นมิตรของเพื่อน

๘. ไม่คบหาผู้ที่ไม่ใช่มิตรของเพื่อน

๙. ห้ามปรามผู้ที่ด่า ติเตียนเพื่อน

๑๐. สรรเสริญผู้ที่พรรณนาคุณความดีของเพื่อน

๑๑. บอกความลับแก่มิตร (ที่ไม่โง่)

๑๒. ปิดความลับของเพื่อน

๑๓. ยินดีในความเจริญของเพื่อน

๑๔. ไม่ยินดีในความเสื่อมของเพื่อน

๑๕. ได้อาหารมีรสอร่อยมา ย่อมระลึกถึงเพื่อน

๑๖. ยินดีอนุเคราะห์เพื่อนว่า อย่างไรหนอเพื่อนของเราจักได้ลาภจากที่นี้บ้าง

จาก ... มิตตามิตตชาดกที่ ๑๐

ฟังจากท่านอาจารย์ได้ที่นี่ครับ -->

ชุดจิตปรมัตถ์ แผ่นที่ ๕ ครั้งที่ ๒๐๗๔

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของกัลยาณมิตรทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
paderm
วันที่ 22 ต.ค. 2551

เพื่อนที่ดีเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ แต่จะรู้ว่าใครเป็นเพื่อนที่ดีหรือไม่ดี ใครควรคบ ไม่ควรคบ ก็เป็นเรื่องของปัญญาที่จะรู้และการสะสมมาของบุคคลนั้น เป็นอนัตตาจริงๆ ไม่ว่าใครจะคบใครหรือบุคคลใด ซึ่งก็ย่อมเสื่อมหรือเจริญตามบุคคลที่คบด้วย แต่อย่างน้อยก็เริ่มที่ตัวเราเองก่อนที่จะเป็นเพื่อนที่ดี นั่นคือการขัดเกลากิเลสของตนเอง เมื่อเป็นผู้มีคุณธรรมคือศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา ก็ย่อมเป็นเพื่อนที่ดีของบุคคลอื่น ด้วย กาย วาจาและใจก็เป็นมิตร แนะนำสิ่งที่ดี ห้ามในสิ่งที่ไม่ดี เป็นต้น แต่คงต้องรู้จัก ปล่อยวางหากแนะนำไปแล้วไม่สนใจ อดทนและเข้าใจ ตามเหตุปัจจัย สัตว์ทั้งหลายมี กรรมเป็นของๆ ตน สุดท้ายไม่ลืมที่จะขัดเกลากิเลสตนเองเป็นสำคัญ

ขออนุโมทนากับกัลยาณมิตรทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
paderm
วันที่ 22 ต.ค. 2551

สนทนาธรรมที่มูลนิธิ วันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2551

พระสูตร เรื่อง สัมโพธิสูตร

ท่านอ.สุจินต์ มีเพื่อนเยอะไหมคะ แต่ละท่านมีเพื่อนเยอะไหม เพื่อนเป็นกัลยาณมิตร หรือเปล่า ตอนนี้มาถึงเพือนแล้วนะคะ ถ้าเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตรเป็นยังไง หมายความ ว่ายังไง เป็นผู้ที่หวังดี หวังดีให้เราได้ลาภ ได้ยศหรือยังไงคะ หรือว่าหวังดีให้เราเกิด กุศล ให้มีความเห็นที่ถูกต้อง ให้เข้าใจถูก นั่นแหละค่ะคือเพื่อนดีจริงๆ

เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีเพื่อนดีนะคะ เราสามารถที่จะเข้าใจธรรมได้ไหม เพราะว่าเรามีเพื่อนดีที่ช่วยให้เรา สนุกสนานและก็ให้ได้ลาภ ได้ยศได้อะไร ได้อะไรต่างๆ แต่ว่าให้เราเข้าใจธรรม ให้ เข้าใจความจริง ให้ละอกุศลต่างๆ หรือเปล่า เพราะฉะนั้นความเป็นเพื่อนที่ดีนะคะ คือ เกื้อกูลให้เกิดกุศล เพื่อนคนไหนแนะนำให้เกิดกุศลรู้ได้เลยค่ะว่าเป็นเพื่อนที่ดี แต่ว่าจะ เป็นกุศลมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่ว่าทำให้เกิดปัญญามากน้อยแค่ไหนด้วย

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ปริศนา
วันที่ 23 ต.ค. 2551

จากความเห็นที่ ๓.

ในยามที่เราเห็นภัย เป็นห่วง และรีบเตือน เขากลับไม่เห็นว่าเราเป็นเพื่อน เราก็ควรให้อภัย และคิดเสียว่า เขาสะสมมาของเขาอย่างนั้นเอง ควรเมตตาเขาต่อไป ใช่มั้ยคะ

ขณะที่เราทราบว่าใคร ปฏิบัติกับเราเช่นใดจึงเรียกว่า "เพื่อน"ผู้อื่น ก็ย่อมทราบได้เช่นกัน ว่า "เพื่อน"จะปฏิบัติเช่นใดกับเขา ในยามที่เขา มีภัย.

เมื่อคิดว่าตน ทำหน้าที่ของเพื่อน ดีที่สุดแล้วอะไรจะเกิด ก็ต้องเกิดเมื่อไม่ควรนำ "อกุศล"ของตนไปให้ใคร ฉันใดก็ไม่ควรนำ "อกุศล" ของใคร มายึดถือจนตนเองเกิด "อกุศล" ฉันนั้น.

สิ่งใดเกิดขึ้น ก็เพราะมีปัจจัยไม่มีปัจจัย ก็ไม่เกิดขึ้นเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขาแต่เป็นธรรมะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ปริศนา
วันที่ 23 ต.ค. 2551

จากความเห็นที่ ๗

เมื่อเป็นผู้มีคุณธรรม คือ ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา ก็ย่อมเป็นเพื่อนที่ดีของบุคคลอื่น ด้วย กาย วาจาและใจ ก็เป็นมิตร แนะนำสิ่งที่ดี ห้ามในสิ่งที่ไม่ดี เป็นต้น แต่คงต้องรู้จักปล่อยวาง หากแนะนำไปแล้วไม่สนใจ อดทนและเข้าใจ ตามเหตุปัจจัย สัตว์ทั้งหลาย มีกรรมเป็นของๆ ตน สุดท้าย ไม่ลืมที่ขัดเกลากิเลสตนเอง เป็นสำคัญ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
orawan.c
วันที่ 23 ต.ค. 2551

นอกจากจะเลือกคบเพื่อนที่ดีแล้ว อย่าลืมเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนด้วยนะคะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
khampan.a
วันที่ 23 ต.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในชีวิตประจำวัน โดยปกติของผู้ที่ยังหนาแน่นไปด้วยกิเลส เต็มไปด้วยอกุศลนานาประการ จึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีแต่กุศลจิตเกิดตลอดทั้งวัน เพราะปกติ อกุศลจิตเกิดบ่อยมากเป็นพื้นอยู่แล้ว ไม่ว่าใครก็ตาม พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงนั้นแสดงให้เห็นว่าใครเป็นบุคคลที่ควรคบ หรือ ไม่ควรคบ เพราะว่าบุคคลที่เราคบนั้น เป็นส่วนที่จะทำให้ชีวิตของเราเป็นไปในทางกุศล หรือ ทางอกุศล เป็นไปในทางเสื่อมหรือเป็นไปในหนทางแห่งความเจริญ ได้ แต่แม้อย่างนั้น พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ก็ยังส่องให้เห็นถึงประการหนึ่งที่สำคัญ คือ เพื่อน้อมพิจารณาตนเองว่าตนเองมีลักษณะเป็นอย่างไร มีกิเลสอกุศลอันวิจิตรมากน้อยเพียงไร พร้อมที่จะขัดเกลาให้เบาบางลงบ้างหรือยัง ดังนั้น จึงต้องอาศัยปัญญาเท่านั้น ที่จะทำให้เข้าใจสภาพธรรมทั้งหลายทั้งปวง ตามความเป็นจริงได้ (ไม่ต้องหาความเป็นมิตรแท้จากบุคคลอื่น แต่หาได้ที่ตัวเราเอง คือ มีความเป็นมิตร มีความหวังดีต่อบุคคลอื่น ทั้งหลายทั้งปวง ครับ)

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
petcharath
วันที่ 23 ต.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ปริศนา
วันที่ 24 ต.ค. 2551

ผู้โง่เขลา...ที่รู้ว่าตนเอง ทำผิดต่อมิตร แล้วขอโทษต่อมิตรด้วยทราบว่ามิตรนั้น อยู่ในฐานะ "ผู้ชี้ขุมทรัพย์" ให้ มิตรแท้...ย่อมอดโทษให้.

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 24 ต.ค. 2551

[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 8
.
[๗] ดูก่อนอานนท์ ข้อว่า ความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดีเป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้นทีเดียวนั้น พึงทราบโดยปริยายแม้นี้ ด้วยว่าเหล่าสัตว์ผู้มีชาติเป็นธรรมดา ย่อมพ้นไปจากชาติ ผู้มีชราเป็นธรรมดา ย่อมพ้นไปจากชรา ผู้มีมรณะเป็นธรรมดา ย่อมพ้นไปจากมรณะ ผู้มีโสกะ ปริเทวะทุกข์ โทมนัสและอุปายาส เป็นธรรมดา ย่อมพ้นไปจากโสกะ ปริเทวะทุกข์ โทมนัสและอุปายาส เพราะอาศัยเราผู้เป็นกัลยาณมิตร ดูก่อนอานนท์ ข้อว่า ความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดีเป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้นทีเดียวนั้น พึงทราบโดยปริยายนี้แล.

จบอุปัฑฒสูตรที่ ๒

อนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
Noparat
วันที่ 24 ต.ค. 2551

ไม่ต้องหาความเป็นมิตรแท้จากบุคคลอื่น แต่หาได้ที่ตัวเราเอง คือ มีความเป็นมิตร มีความหวังดีต่อบุคคลอื่น ทั้งหลายทั้งปวง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
wannee.s
วันที่ 25 ต.ค. 2551

คนพาลแตกกันแล้ว ย่อมประสานกันได้ยาก ส่วนบัณฑิตแตกกันแล้ว ย่อมประสานกัน ได้ง่ายค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
Pararawee
วันที่ 28 ต.ค. 2551

ในสังคมปัจจุบันคำว่า "ฉาบฉวย" ก็คงจะใช้ได้กับคนทั่วๆ ไป เพื่อนแท้จริงๆ ตามที่คุณพี่วรรณีบอกข้างต้นนั้นหายาก ถ้าจะมีก็คงเป็นเพราะบุญเก่าน่ะค่ะ "เพื่อนแม้มีมาก แต่ไม่ดี สู้มีเพื่อนที่ดีคนเดียวไม่ได้ค่ะ" ---เป็นเรื่องจริงค่ะ

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
wirat.k
วันที่ 30 ต.ค. 2551

ที่นี่มีเพื่อนดี เพราะ "หวังดีให้เราเกิดกุศล ให้มีความเห็นที่ถูกต้อง ให้เข้าใจถูก นั่นแหละค่ะคือเพื่อนดีจริงๆ " ข้อความบางตอนจากคำกล่าวท่านอาจารย์สุจินต์ (ความเห็นที่ 7)

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
opanayigo
วันที่ 9 ก.ค. 2553

เพื่อน้อมพิจารณาตนเอง

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
Chalee
วันที่ 6 มิ.ย. 2558

สาธุ ขออนุโมทนาค่ะ.

 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
อย่าหยิ่งผยอง
วันที่ 17 ก.ค. 2567

ขออนุโมทนาสาธุค่ะ

เมื่อก่อนหนูมีเพื่อนมากมายกินเหล้าเมายาเที่ยวกลางคืนอยู่คนเดียวไม่ได้ จนได้มาศึกษาพระธรรมค่ะ ฟังทุกวันๆ ไม่ขาดจากการฟังเลยค่ะ หลังๆ มาแฟนเริ่มถามเพราะเห็นว่าเมื่อก่อนอยู่คนเดียวไม่ได้ เลยตอบไปว่า ขอแค่ได้ฟังพระธรรม ก็อยู่ได้ค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ