รางวัลที่ 1

 
wannee.s
วันที่  20 พ.ย. 2551
หมายเลข  10449
อ่าน  1,445

เมื่อเร็วๆ นี้ มีคนเก็บขยะถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง 34 ล้านบาท ทางโลกถือว่าโชคดีที่สุด แต่เงินทองเป็นของชั่วคราว วันนี้เป็นของเรา วันต่อๆ ไปไม่รู้ว่าเป็นของใคร และทรัพย์สินเงินทอง ก็อาจจะหมดไปด้วยน้ำ ด้วยไฟไหม้ ด้วยโจร ต้องพลัดพราก เป็นที่พึ่งไม่ได้ แต่การได้ฟังธรรมะ และการได้ศรัทธาในพระรัตนตรัยยิ่งยากกว่าการถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง เพราะศีล ภาวนา ปัญญา เป็นที่พึ่งติดตามตนไปได้ในชาติต่อๆ ไป คือการเข้าใจขึ้น การรู้ความจริงและมั่นคงในสัจจธรรม มั่นคงในการเจริญกุศลยิ่งขึ้นค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ajarnkruo
วันที่ 20 พ.ย. 2551

เป็นผู้มีทรัพย์มากในโลก

ดูก่อนอุคคะ ทรัพย์นั้นมีอยู่แล เรามิได้กล่าวว่าไม่มี แต่ทรัพย์นั้นแลเป็นของทั่วไปแก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก

ดูก่อนอุคคะ ทรัพย์ ๗ ประการนี้แลไม่ทั่วไปแก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก ๗ ประการเป็นไฉน คือ ทรัพย์ คือ ศรัทธา ๑ ศีล ๑ หิริ ๑ โอตตัปปะ ๑ สุตะ ๑ จาคะ ๑ ปัญญา ๑

ดูก่อนอุคคะ ทรัพย์ ๗ ประการนี้แล ไม่ทั่วไปแก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 20 พ.ย. 2551

เงินทองนั้นไม่ตั้งอยู่ยั่งยืนเลย

อนึ่ง เงินทองนี้ ทำให้เกิดความโลภ ความมัวเมา ความลุ่มหลง ความติดดังเครื่องผูก มีภัย มีความคับแค้นมาก เงินทองนั้นไม่ตั้งอยู่ยั่งยืนเลย.

นรชนเป็นอันมากประมาท มีใจเศร้าหมองแล้ว เพราะเงินทองเท่านี้ จึงต้องเป็นศัตรู วิวาทบาดหมางกันและกัน.

อาสวะทั้งหลาย ไม่ใช่หมดสิ้นไปเพราะเงินทองดอกนะ กามทั้งหลายเป็นอมิตร เป็นผู้ฆ่า เป็นศัตรู เป็นดั่งลูกศรเสียบไว้.

[เล่มที่ 54] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา

เล่ม ๒ ภาค ๔ - หน้าที่ ๔๑๖ สุภากัมมารธิดาเถรีคาถา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 20 พ.ย. 2551

การใช้โภคทรัพย์โดยทางที่ควร

อริยสาวกในพระธรรมวินัยนี้ เลี้ยงตน เลี้ยงมารดาบิดา บุตร ภริยา บ่าวไพร่ คนอาศัย เพื่อนฝูง ให้เป็นสุขเอิบอิ่มสำราญดี ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยันที่สะสมขึ้นด้วยกำลังแขนที่ต้องทำงานจนเหงื่อไหล ที่ชอบธรรม ที่ได้มาโดยธรรม เป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้โภคทรัพย์โดยทางที่ควรแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 20 พ.ย. 2551

ความเจริญด้วยทรัพย์ไม่ประเสริฐ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายความเสื่อมแห่งโภคะมีประมาณน้อย ความเสื่อมแห่งปัญญาชั่วร้ายที่สุดกว่าความเสื่อมทั้งหลาย.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเจริญด้วยโภคะมีประมาณน้อย ความเจริญด้วยปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งหลาย เพราะฉะนั้นเธอทั้งหลายพึงสำเนียกอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักเจริญโดยความเจริญปัญญา

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงสำเนียกอย่างนี้แล.

[เล่มที่ 32] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๔๔

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Noparat
วันที่ 20 พ.ย. 2551

ปัญญา เป็น ทรัพย์อันประเสริฐ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
suwit02
วันที่ 20 พ.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
นายเรืองศิลป์
วันที่ 21 พ.ย. 2551

การสร้างบุญ สร้างกุศล สะสมบุญบารมี อบรมเจริญปัญญาให้เห็นตามความเป็นจริง เป็นอริยทรัพย์ อันเป็นที่พึ่งได้จริงๆ ย่อมประเสริฐกว่า อย่างแน่นอน

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Sam
วันที่ 21 พ.ย. 2551

ทรัพย์ที่ประเสริฐ ไม่ใช่รูปธรรม แต่ล้วนเป็นนามธรรม อันได้แก่ ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา หิริ โอตตัปปะ ซึ่งไม่อาจถูกทำลายด้วยบุคคลอื่นหรือภัยธรรมชาติ และยังสั่งสมเป็นอุปปนิสัยต่อไปได้ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Komsan
วันที่ 21 พ.ย. 2551
ขอออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wirat.k
วันที่ 21 พ.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pornpaon
วันที่ 21 พ.ย. 2551

ขอถวายความนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ที่พึ่งอันเกษมสูงสุดของข้าพเจ้า

ผู้มีปัญญา ชื่อว่าไม่จน

คลิกอ่านเพิ่มเติมที่...

ผู้มีปัญญา ถึงจะสิ้นทรัพย์ก็ยังเป็นอยู่ได้

อริยทรัพย์ ๗ [ปาฏิกวรรค]

ขออนุโมทนาพี่วรรณี

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
pornchai.s
วันที่ 23 พ.ย. 2551

ครับ ปัญญา คือความเข้าใจพระธรรม ย่อมประเสริฐสุด ท่าน อ.สุจินต์ มักกล่าวเสมอว่า " เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม " เชื่อว่าสมาชิกทุกท่านที่ได้เข้าใจพระธรรมคงไม่ยอมเหมือนกัน ถ้าได้เงินมา 34 ล้านบาท แต่ต้องแลกด้วย การกลับไปเป็นผู้ที่ไม่เคยฟัง "รายการแนวทางเจริญวิปัสสนา"

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
pannipa.v
วันที่ 29 พ.ย. 2551

ด้วยปัญญาที่ยังไม่เจริญ เมื่อได้ยินคำว่า รางวัลที่ ๑ ได้เงินตั้ง ๓๔ ล้าน โลภะ ก็มากระซิบ เริ่มหวั่นไหว ถ้าจะสารภาพว่า เลือกรางวัลที่ ๑ ก็อาย จะบอกว่า เลือกเอาปัญญา ก็ไม่แน่ใจว่า เป็นผู้ตรงหรือไม่ สรุปว่า ไม่รู้จะเลือกอะไร? (ในความเป็นจริงก็คือ คิดเพ้อเจ้อไป ด้วยความเป็นตัวตน แม้เป็นแค่เรื่องสมมติ กิเลสก็ยังกระเพื่อม)

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
prachern.s
วันที่ 1 ธ.ค. 2551
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ